“วิษณุ”แจง ปมเด้ง “วิระชัย” แค่ย้ายชั่วคราว ระหว่างรอผลสอบสตช.-ด้านคำสั่งเตือน “บิ๊กโจ๊ก” แค่การเตือน ระบุ เหตุคำร้องยังไม่ชัด ยกอดีตก็เคยมีคำสั่งลักษณะนี้

เมื่อเวลา 15.20 น.ที่เซ็นทรัลเวสต์เกต นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 28 / 2563 ให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า เป็นเรื่องภายในของสำนักงานตำรวจฯไปอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการฯเป็นการใช้อำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องของความเหมาะสม โดยไม่ได้มีการสอบสวนอะไร

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

แต่กรณีที่มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 22/2563 ลงวันที่ 23 มกราคม 2563 ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการให้มาช่วยราชการที่สำนักนายกฯเป็นการชั่วคราวโดยจะมีกรอบระยะเวลาไม่นาน เนื่องจากยังมีการสอบสวนอยู่ที่สำนักงานตำรวจฯเพื่อให้สะดวกต่อการสอบสวน เว้นแต่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นตรงนี้เป็นการ อาศัยพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ จึงเป็นอำนาจของนายกฯพิจารณาไม่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรี และไม่ต้องโปรดเกล้าฯ และยังไม่ผลจากตำแหน่ง ถือว่าเป็นการมาแค่ตัวแต่ยังรับเงินเดือนที่สังกัดเดิม ซึ่งพล.ต.อ.วิระชัย ก็รับทราบคำสั่งดังกล่าวดังกล่าวแล้ว

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 1/2563ลงวันที่ 24มกราคม พ.ศ.2563กำชับให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ นั้น เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียน และการสอบสวนไม่ใช่เรื่องของทางตำรวจแต่เป็นเรื่องของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ขณะนี้ยังสอบอะไรไม่ได้เพราะยังไม่มีการร้องเรียนที่ชัดเจนมากพอ

ดังนั้น คำสั่งจึงเป็นการเตือนและปรามไว้ก่อนเท่านั้น ไม่ได้มีการลงโทษอะไร ซึ่งเจ้าตัวรับทราบแล้ว และต้องระวังอย่าทำผิดวินัย การที่คำสั่งต้องระบุอะไรหลายอย่างเพราะมีเรื่องร้องเรียนที่เข้าข่ายจึงต้องเตือนให้รู้ตัว และการปฎิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็ไม่มีรถและเงินเดือนประจำตำแหน่ง ไม่มีสิทธิอะไร เมื่อมาอยู่ตรงนี้ปลัดสำนักนายกฯ ได้มอบหมายงานและจะลดการมอบหมายลงไประยะหนึ่ง ก่อนจะพิจารณาว่าจะคืนงานกลับให้หรือไม่ค่อยว่ากันอีกที

ทั้งนี้ ที่มีคำถามว่าทำไมถึงไม่เตือนที่เจ้าตัวแต่ออกเป็นคำสั่ง เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นเนื่องจากเป็นการใช้อำนาจที่อ้างตามกฏหมายและต้องการส่งสัญญาณไปถึงหลายคน เพื่อให้รับทราบเอาไว้และที่ผ่านมาก็เคยมีการเตือนในลักษณะนี้ แต่เป็นระดับอธิบดีจึงไม่ได้รับความสนใจอะไรเหมือนกับกรณีนี้ที่นายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาจึงต้องลงมาเซ็นเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน