13 คนไทยจากเมืองฉงชิ่ง เดินทางถึงประเทศไทย คัดกรองละเอียดไม่พบไข้ โดนกำชับให้เฝ้าระวังตัวเอง 14 วัน เล่าชีวิตสุดลำบากระหว่างประกาศควบคุม ไวรัสโคโรนา

ไวรัสโคโรนา – หลังจากที่คนไทยในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ทั้ง 13 คนที่ได้ขอความช่วยเหลือกลับประเทศไทยโดยด่วน ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉินตูและ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่งได้ดำเนินการช่วยเหลือจัดหา ตั๋วเครื่องบินกลับประเทศไทย ในช่วงเวลา 16.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 31 ม.ค.

ต่อเมื่อเวลา 18.15 น.วันที่ 31 ม.ค. คนไทยในเมืองฉงชิ่งทั้ง 13 คน ได้เดินทางมาด้วยสายการบิน Thai Smile เดินทางจากสนามบินนานาชาติฉงชิ่งเจียงเปย์และกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว จากนั้นเจ้าได้มีการตรวจคัดกรองอย่างละเอียดก่อนที่จะปล่อยให้ทั้งเดินทางกลับที่พัก โดยได้กำชับให้สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน

น.ส.กนกพร อายุ 41 ปี คนไทยที่ไปทำงานอยู่ที่ประเทศจีน กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้กลับบ้านเนื่องจากได้กลับมา 2 ปีแล้วประกอบกับ สัญญาเช่าห้องกำลังจะหมดลงในวันที่ 30 ม.ค. ไม่สามารถติดต่อนายจ้างได้ ซึ่งยังไม่ได้รับเงินเดือน และช่วงที่อยู่ที่นั่นก็กลัวเพราะดูข่าวทุกวัน พยายามเดินเรื่องที่จะเดินทางกลับบ้านเอง แต่นายจ้างขอร้องให้อยู่รอเงินเดือนก่อน หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อกับนายจ้างไม่สามารถติดต่อได้

ส่วนความเป็นอยู่ในช่วงที่มีประกาศควบคุมโรคระบาด ร้านค้าก็เริ่มปิดตัวลง จึงอยากกลับบ้านก่อนที่ไวรัสจะลามมา ก่อนจะเดินทางกลับประเทศก็ได้มีเจ้าหน้าที่จากทางการจีนมาสัมภาษณ์ที่บ้าน และก่อนที่จะขึ้นเครื่อง พอมาถึงไทยก็ได้มีการตรวจคัดกรองอย่างละเอียดแต่ก็ไม่มีไข้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการให้สังเกตอาการตัวเองว่าภายใน 14 วันนี้มีน้ำมูกมีไข้ไอจามหรือไม่ตอบมีก็ให้รีบไปหาหมอโดยด่วน

ด้านน.ส.ศรัญญา อายุ 50 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ดีใจจนพูดไม่ออกช่วงที่รอก็คือต้องการได้เงินจากนายจ้างและกลับบ้าน อยากขอบคุณสื่อทุกคนที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ให้เราได้มีวันนี้ได้กลับมาหาคนที่เรารัก ขอบคุณผู้ใหญ่และเพื่อนๆทุกคน

การรวมตัวกันทั้ง13 คนในครั้งนี้เกิดจากการติดต่อกันผ่าน Facebook และไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเป็นความบังเอิญ สถานการณ์ตอนนี้ ที่เมืองฉงชิ่งก็ไม่มีของสดขายแล้วมีแต่มาม่าและไข่ อาหารแห้ง ถือว่าโชคดีที่ได้กลับบ้าน

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า มาตรการการรองรับของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค การบูรณาการกับทุกภาคส่วน มีความพร้อมที่จะทำงาน

ส่วนล่าสุดที่มีข่าวว่ามีแท็กซี่ติดเชื้อหนึ่งราย ทางเราได้มีการเรียกอบรมเรื่องการป้องกันตัวควรมีการป้องกันตัวอย่างไรบ้างให้ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือและทำความสะอาดรถยนต์ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยส่วนใหญ่คนขับแท็กซี่ทุกคนจะใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากบริษัทลงจากรถ แต่หากมีกับการป่วยให้มาติดต่อทางฝ่ายแพทย์ก็พร้อมที่จะดูแลได้ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน