ป่าไม้เตรียมเอาผิด ปารีณา เพิ่ม เฉพาะแค่เล้าไก่-ล้อมรั้ว ‘ทวี’ถ้าผิดจริงโดนด้วย

ป่าไม้เตรียมเอาผิด ปารีณา เพิ่ม เฉพาะแค่เล้าไก่-ล้อมรั้ว ‘ทวี’ถ้าผิดจริงโดนด้วย

ปารีณา / จากกรณีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ แจ้งความเอาผิด น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บุกรุกพื้นที่ป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติฯ กว่า 46 ไร่ และครอบครองพื้นที่ สปก.โดยมิชอบกว่า 682 ไร่ จากการปลูกสร้างโรงเรือนทำฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

ต่อมาสปก.รับมอบพื้นที่สปก.คืนจากน.ส.ปารีณา พร้อมระบุว่าการถือครองที่ดินสปก.ของน.ส.ปารีณา หากส่งคืนแล้วไม่มีบทลงโทษตามกฎหมายสปก. เว้นแต่จะมีความผิดในที่ดินตามกฎหมายอื่น ขณะที่กรมป่าไม้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อสอบถามความเห็นในที่ดินสปก. 682 ไร่ว่าสามารถดำเนินคดีได้หรือไม่นั้น

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายธวัชชัย ลัดกลูด ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6(อุดรธานี) กรมป่าไม้ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดินน.ส.ปารีณา เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 12 ก.พ.นี้ จะลงพื้นที่ที่กรมป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณา ใน 4 ข้อหา ได้แก่ กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าและเข้ายึดถือและครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษตามมาตรา 72 ตรี

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ยึดถือครอบครองทำประโยชน์อยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถางทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษตามมาตรา 31 กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ฐานเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า รวมทั้งกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการ ทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ มีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของ ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 ตามที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ มอบหมาย และตามที่ตำรวจ บก.ปทส. เชิญให้ไปชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการสอบสวนดำเนินคดี

นอกจากนั้นจะไปดูพื้นที่ ซึ่งนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) แจ้งความกล่าวหานายทวี ไกรคุปต์ บิดาของน.ส.ปารีณา บุกรุกที่ดินของรัฐพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง ด้วย ถ้าพบการกระทำผิดก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย

นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีการครอบครองที่ดินสปก.โดยมิชอบกว่า 682 ไร่ของน.ส.ปารีณา ที่กรมป่าไม้ทำหนังสือสอบถามความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาใน 2 เรื่องคือ พื้นที่ดังกล่าวยังเป็นป่าสงวนแห่งชาติอยู่หรือไม่ และพื้นที่ดังกล่าวพ้นสภาพจากป่าสงวนฯ ไปเป็นพื้นที่เกษตรกรรมแล้วหรือไม่นั้น ดูจากแนวโน้มที่ได้เข้าไปเป็นตัวแทนกรมป่าไม้ หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา พบว่าน่าจะต้องดำเนินคดีกับน.ส.ปารีณาเพิ่มเติม แต่จะดำเนินคดีเฉพาะพื้นที่ที่น.ส.ปารีณา ได้ทำประโยชน์ในที่ดิน เช่น ทำเล้าไก่ ทำรั้ว เป็นต้น

ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นของสปก.อยู่แล้ว ว่าจะนำไปจัดสรรให้เกษตรกร หรือจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้ เป็นต้น หากมีข้อสรุปที่ชัดเจนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา อย่างหนึ่งอย่างใดออกมา กรมป่าไม้พร้อมปฏิบัติทันที