ด่วน! “บิ๊กแดง” ร่ำไห้ ยืดอก ขอโทษประชาชน ปมทหารคลั่ง แจงผู้ก่อเหตุ เริ่มจากการใช้อาวุธส่วนตัว และถึงไปปล้นปืนที่คลังอาวุธ ยอมรับ ผู้ก่อเหตุ ไม่ได้รับความเป็นธรรม

จากกรณี จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ผู้บังคับหมู่ปืนเล็ก หมวดรักษาการณ์กองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ก่อเหตุปล้นอาวุธปืนสงคราม และเครื่องกระสุน จากป้อมรักษาการณ์ภายในหน่วย นำไปใช้ก่อเหตุทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และได้รับบาดเจ็บกว่าครึ่งร้อย โดยก่อนหน้านั้น กองทัพบกได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทุกคน

วันนี้ เวลา 09.00 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ชี้แจงในทุกเรื่องที่สื่อมวลชนจะสอบถาม ถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ตนในฐานะผู้บัญชาการกองทัพบก ต้องขอโทษ และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อเหตุการณ์นี้ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของประชาชน และข้าราชการ ที่ต้องเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ และเสียใจกับประชาชน ที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก

พล.อ.อภิรัชต์ ยังชี้แจงลำดับเหตุการณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง หลังจากก่อเหตุฆ่า ในการปล้นปืนนั้น จ.ส.อ.จักรพันธ์ ได้เข้ามาที่ป้อมในค่ายก่อน จี้เอาปืน ไม่ได้ยิงเพราะกลัวทหารรักษาการณืได้ยิน และบรรจุกระสุน จากนั้นจึงไปที่ป้อมรักษาการณ์ยิงทหารเสียชีวิต ก่อนจะใช้ปืนลุกซองอานุภาพร้ายแรง ยิงทำลายกุญแจคลังอาวุธ เอาปืน เอชเค 33 และ ปืนกล เอ็ม 60

ที่เก็บในคลังเอาไปอย่างละกระบอก ยิงกราดใส่พลทหาร บาดเจ็บสองนาย ก่อนจะขับรถส่วนตัว เข้าไปกองบังคับการกองพันเข้าไปด้านหลัง ตอนนั้นทหารภายในเริ่มทราบ เริ่มรู้ ได้ยินเสียงปืนหลังจากนั้น จ.ส.อ.จักรพันธ์ ได้ไปขโมยรถ ซึ่งไม่ใช่รถฮัมวีแบบที่สื่อมวลชนเข้าใจ แต่เป็นรถจี๊ปดัดแปลง หรือ เอ็ม 51 ก่อนออกไปจากค่ายทหาร

“สำหรับสาเหตุเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเครือญาติ ซึ่งผู้ก่อเหตุและคู่กรณีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ได้มีการซื้อขายที่ดิน เกิดการผิดสัญญากันในเรื่องผลตอบแทน โดยในรายละเอียดจะต้องไปสืบต่อว่ามีใครที่เกี่ยวข้อง ในระดับผู้บังคับบัญชาที่ยังเกี่ยวข้องอยู่บ้าง เมื่อผิดสัญญา จึงเกิดแรงจูงใจในการก่อเหตุ

แต่ ณ วินาที ที่ผู้ก่อเหตุได้สังหาร ลั่นไกใส่คู่กรณี ณ วันนั้น ณ นาทีนั้น เขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาการแถลงข่าว มีน้ำเสียงสั่นเครือ ร่ำไห้ ทั้งนี้ยังได้เปิดเผยอีกว่า กองทัพบกพร้อมรับผิดชอบ ตามมาตรฐานสูงสุด ทั้งต่อผู้เสียหาย ทหารตำรวจ ประชาชนทั่วไป อ้าแขนรับผู้เสียหาย และผู้บาดเจ็บ จากกรณีดังกล่าว ทำงานในกองทัพ ซึ่งหากขาดโอกาสในการทำงาน แต่ไม่ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ขออยู่พัฒนากองทัพ จนเกษียณอายุราชการอีก 7 เดือน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน