เหตุตำรวจเสียรู้สองนางนกต่อ เปิดห้องคุมขังให้พบกันทั้งที่ไม่ใช่เวลาเยี่ยม และถือโอกาสหลบหนีไปอย่างลอยนวลรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤภาคม 2560 เวลาประมาณ 04.51 น. ที่สถานตำรวจภูธรโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เกิดเหตุผู้ต้องหาหลบหนีจากที่คุมขังสถานีตำรวจภภูธรโพนทอง จำนวน 2 คน ประกอบด้วยนายสุรชัย หรือต้อม ภูมิภาค อายุ 27 ปี ที่อยู่ 130 หมู่ 6 ต.สระแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาคดีอาญาที่ 164/2560 ร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยผิดกฏหมาย และนายสุรศักดิ์ หรือ อาท คันทมาตร์ อายุ 23 ปี ที่อยู่ 12 หมู่ 17 ต.นาอุดม อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาคดีอาญาที่ 163/2560 มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย
โดยมีหญิงสาววัยรุ่นสวมกางเกงขาสั้น สวมเสื้อแขนยาว และคอกลมแขนสั้นมาเยี่ยมในเวลาประมาณ 04.51 น. ทั้งๆที่ไม่ใช่เวลาเยี่ยม โดยมีผู้เปิดประตูห้องขังให้ จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองได้ออกจากห้องขังออกมากอดรัดกันเหมือนกับเป็นคู่รักหรือภรรยาแล้วหลบหนีไป โดยยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนี เป็นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน ฌฐ – 9027 กรุงเทพมหานคร
ด.ต.ฉลาด แน่นอุดร สิบเวรเปิดเผยว่า ตนยอมรับผิดที่บกพร่องต่อหน้าที่เดินไปที่ห้องขังเห็นผู้ต้องหาเดินสวนออกมาแล้ววิ่งหลบหนีไปทั้งสองคน ตนไม่ได้ช่วยให้ผู้ต้องหาหลบหนี ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ ต่อนี้ไปจะติดตามผู้ต้องหาทั้งสองคนกลับมาให้ได้โดยเร็ว
พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง เผยว่า จะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบพ.ต.ท.วิชัย ไถวฤทธิ์ สว(สอบสวน) และด.ต.ฉลาด แน่นอุดร สิบเวร แล้ว และให้ชี้แจงว่าเวลาที่เกิดเหตุไม่ใช่เวลาเยี่ยมผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ประสานตรวจทุกพื้นใกล้เคียง และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมนางนกต่อที่นำรถมารับและพาหลบหนีไปให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้ พร้อมนี้ได้รายงานด่วนที่สุดถึง พล.ต.ต.สมชาย นุ่มโต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ทราบแล้ว
พล.ต.ต.สมชาย นุ่มโต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้สอบสวน และเอาผิดวินัยร้ายแรงกับ ดต.ฉลาด ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด นอกจากนี้ยังได้สอบสวนพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจับกุม น.ส.เสาวลักษ์ และ น.ส.ไอรดา ในข้อหาช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนีจากห้องควบคุม โดยผู้ต้องหาคดียาเสพติดทั้งสองคน เป็นผู้ต้องหารายสำคัญก่อนหน้านี้มีประวัติลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายในพื้นที่
กระทั่งถูกจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองได้ต่อสู้คดีในชั้นศาล พร้อมกับยื่นประกันตัวออกไปสู้คดี จากนั้นได้พากันหลบหนีไป กระทั่งเมื่อวันที่19 พ.ค.2560 ชุด ปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้สืบสวนติดตามและจับกุมตัวบุคคลทั้งสองได้พร้อมของกลางยาบ้า1,200 เม็ด ก่อนจะส่งตัวให้ สภ.โพนทองเจ้าของพื้นที่ไปดำเนินคดีตามกฏหมาย และได้หลบหนีออกจากห้องคุมขังดังกล่าว
