กว่า 18 ชั่วโมง ไฟไหม้ภูกระดึง สำรวจความเสียหาย เพลิงโหมวอดวาย ต้นสน 100 ปี ก็ไม่รอด!

จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้ป่าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยไฟได้ลุกไหม้ช่วงบริเวณหลังแป โดยไหม้จากขอบหน้าผาเข้ามายังที่ทำการวังกวาง เหลืออีกเพียงประมาณ 1 กิโลเมตรจะเข้าที่ทำการ และยังลุกลามไปเกือบถึงลานพระพุทธเมตตาบนยอดภูกระดึง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วง 08.30 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ได้เกิดไฟป่าบนยอดภูกระดึง จุดเริ่มจากขอบแนวรั้วอุทยาน ไต่ขึ้นตามหน้าผา และโหมไหม้ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงและเจ้าหน้าที่ไฟป่าภูกระดึง

ตลอดจนลูกหาบ นักท่องเที่ยว ทุกหน่วยงานที่อยู่บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จุดบริการวังกวาง ร่วม 130 นาย ได้ร่วมกันสกัดไฟป่าไม่ให้ลุกไหม้ลามเข้าพื้นที่ชั้นใน มาถึงที่ทำการบริการนักท่องเที่ยววังกวาง ได้แล้วร่วม 18 ชั่วโมง

นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า ตลอดทั้งวัน ทุกหน่วยงานบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้ใช้สรรพกำลังที่มี บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ร่วมกับหน่วยไฟป่าภูกระดึง ลูกหาบ ร้านค้า นักท่องเที่ยว ได้ทำการควบคุมไฟป่า

โดยทำการทำแนวกันไฟและเผาสกัดไฟป่าไม่ให้ไหม้ลุกลามจากแนวผา บริเวณผาเมษา หลังแป แนวยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งล่าสุดสามารถควบคุมเพลิงได้ ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563

พื้นที่เสียหายแบ่งตามแบ่งตามชนิดป่า ป่าสน ซึ่งมีต้นสนอายุกว่า 100 ปี – ป่าก่อ – และทุ่งหญ้า และจุดที่ 2 ที่ไฟไหม้ คือบริเวณผาหมากดูก ได้ข้ามแนวควบคุมและขยายตัวไปทางสระแก้ว โดยใช้วิธีทำแนวกันไฟและชิงเผากลับจากเส้นทางองค์พระพุทธเมตตา – สระแก้ว – สะพานหิน – สระอโนดาษ โดยคาดว่ามีพื้นที่เสียหายประมาณ 1400 ไร่ รวม ประมาณ 3,400 ไร่ หนักใน 17 ปี

สำหรับสาเหตุเบื้องต้น การเกิดไฟป่าครั้งนี้ คาดว่าจะมาจาก การเผาป่าในพื้นที่ด้านล่างของภูกระดึงและเกิดลุกลามขึ้นบนยอดภูกระดึง ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะได้หาสาเหตุ ที่แท้จริงต่อไป


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน