เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานเกิดความวุ่นวายขึ้นที่ท่าอากาศยานน่านนคร หรือสนามบิน จ.น่าน ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน เมื่อผู้โดยสารพูดเล่นกับเพื่อนว่าสงสัยที่กระเป๋าหนักเพราะหนักระเบิด

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. เมื่อผู้โดยสารหญิงสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบินที่ FD 3557 น่าน-กรุงเทพ พูดกับเพื่อนขณะกำลังชั่งน้ำหนักประเป๋าผ่านเข้าจุดตรวจผู้โดยสารขาออกว่า กระเป๋าหนักมากน่าจะเป็นเพราะระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานในจุดตรวจได้ยิน จึงรายงานตามแผนรักษาความปลอดภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าควบคุมตัวหญิงสาวคนดังกล่าวไปสอบสวนและขอตรวจค้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่สนามบิน ผู้โดยสาร และประชาชนที่อยู่ในบริเวณท่าอากาศยานตื่นตกใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังให้ผู้โดยสารที่ขึ้นไปบนเครื่องบินแล้วลงจากเครื่อง เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด

นายเรืองยุทธ นิตยานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานน่านนคร เปิดเผยว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวเดินทางมาเป็นหมู่คณะ โดยมีกำหนดเดินทางจากท่าอากาศยานน่านนคร ไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อไปต่อสายการบินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฏร์ธานี ขณะกำลังนำกระเป๋าชั่งน้ำหนักเพื่อนำขึ้นเครื่องบินและอยู่ระหว่างรอการผ่านเข้าจุดตรวจผู้โดยสารขาออก ได้มีการกระซิบพูดคุยล้อเล่นกันว่ากระเป๋าหนักมากน่าจะเป็นเพราะระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปฏิบัติงานในจุดตรวจดังกล่าวได้ยิน จึงรายงานตามแผนรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าควบคุมตัว ขอตรวจค้นและนำตัวสอบสวน

 

นายเรืองยุทธ กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นอย่างละเอียด และสอบสวนสวนทราบว่าได้พูดเล่นกันไปโดยความคะนองปาก รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีเจตนาที่จะกระทำการให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด หรือตกใจกลัวแต่อย่างใด จึงพิจารณาให้ทำบันทึกรายงานและว่ากล่าวตักเตือนก่อนปล่อยตัวไป อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ลักษณะนี้ถือเป็นครั้งแรกของท่าอากาศน่านนคร ที่ต้องมีการตรวจสอบเรื่องระเบิด ซึ่งแม้จะเป็นการพูดคุยเล่นก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งได้ยกระดับสูงสุดตามนโยบายสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

“สำหรับท่าอากาศยานน่านนคร มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกจุดทั้งภายในตัวอาคารและโดยรอบ โดยเฉพาะจุดที่มีความล่อแหลมสุ่มเสี่ยง และขอเตือนประชาชนที่มาใช้บริการ ขอให้ระมัดระวังเรื่องการพูดหรือแสดงถึงสิ่งของต้องห้าม ซึ่งหากมีเจตนาหรือเข้าขั้นตอนการปฏิบัติแล้วอาจมีความผิดตามกฎหมายและมีโทษสูงสุดได้” นายเรืองยุทธ ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน