สช.เตือน โรงเรียนอย่าปกปิดข้อมูล เสี่ยงโควิด19 ให้สิทธิปิดโรงเรียน 7 วันไม่ต้องแจ้ง
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) อยู่ระหว่างการสำรวจว่ามีโรงเรียนใดบ้างที่แจ้งปิดเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งนี้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) กำชับให้ สช. เกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนกรณีโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่ก่อนหน้านี้พบเด็กชายอายุ 8 ขวบติดเชื้อโควิด-19 มาจากปู่ย่านั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีนักเรียนติดเชื้อเพิ่มอีก แต่กำชับให้ผู้บริหารติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนการพิจารณาปิดโรงเรียน หากพบว่ามีนักเรียนหรือครูต้องสงสัยเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง ผู้บริหารโรงเรียนสามารถสั่งปิดโรงเรียนได้ไม่เกิน 7 วัน หากจำเป็นต้องปิดเกิน 7 วัน ต้องขออนุญาตจาก สช.ก่อน การสั่งปิดโรงเรียนนั้นต้องคำนึงและทำตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด
“สช. สื่อสารกับโรงเรียนตลอดว่า อย่าปกปิดข้อมูล เช่น มีบุคคลไปประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้วโรงเรียนไม่ดำเนินการตรวจสอบ หรือปกปิดข้อมูลไม่แจ้งให้ สช.ทราบ แล้วจะมาอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ เพราะเข้าข่ายผิดกฎหมาย ผมเน้นย้ำโรงเรียนในสังกัด สช.ว่าต้องติดตามสถานการณ์และดำเนินการตามมาตรการ สธ.อย่างเคร่งครัด อย่าเชื่อข้อมูลข่าวสารในโลกโซเชียล รอฟังข่าวจากแหล่งเดียวกัน คือ สธ.เท่านั้น” นายอรรถพล กล่าว
เลขาธิการ กช. กล่าวต่อว่า วันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ในส่วนของ สช.ส่วนกลางจะทำความสะอาด หรือบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพราะพบว่าเจ้าหน้าที่ 2 คน เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สช.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน พักเฝ้าดูอาการอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วันแล้ว
