จ่อเรียกแม่บ้านชาวพม่าสอบที่มาตู้แช่ศพ ตร.มึนไม่พบประวัติ “ปีเตอร์” แต่บอกเร็วๆ นี้มีข่าวดีแน่

กรณีตำรวจบุกจับแก๊งปลอมหนังสือเดินทาง ในอาคารพาณิชย์ย่านซอยสุขุมวิท 56 เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นชาวอเมริกัน 3 คน คือ นายวิลเลียม ปีเตอร์ จอห์นสัน หรือนายเฮอร์เบิร์ด เครก ลาฟอง อายุ 66 ปี นายเจมส์ ดักกลาส แอคเกอร์ อายุ 63 ปี และนายแอรอน เอโด้ หรืออารอน โธมัส แกเบล อายุ 40 ปี โดยนายปีเตอร์ยิงใส่ตำรวจบาดเจ็บ ตรวจค้นตู้แช่เย็นขนาดใหญ่ พบศพชายต่างชาติถูกหั่นแยกชิ้นส่วนใส่ถุงดำ แช่เย็นไว้ ทราบชื่อคือนายชาร์ล เอ็ดวาร์ด ดิตเลฟสัน เชื้อชาติฮังการี สัญชาติอเมริกัน อายุ 45-50 ปี นักธุรกิจในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยนายปีเตอร์รับว่าร่วมกับพวกฆ่าและหั่นศพนายชาร์ล สาเหตุจากติดหนี้สิน 6 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.1ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ต.ค ที่ห้องประชุม สน.พระโขนง พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส. บช.น. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.เสถียร วิชชงญ์ธนมาลา รองผกก.(สอบสวน) สน.พระโขนง พร้อมเจ้าหน้าที่ สส.บช.น. ฝ่ายสืบสวน บก.ทท. และฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวภายหลังการประชุมว่า รายละเอียดตนขอยังไม่เปิดเผย แต่ยืนยันว่าน่าจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้ โดยในวันที่ 7 ต.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. จะเดินทางมาประชุมและติดตามความคืบหน้าด้วยตนเอง ซึ่งรายละเอียดคดีขอให้พล.ต.ท.ศานิตย์เป็นผู้ให้ข้อมูล

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน เพื่อตรวจสอบสำนวนคดีในเบื้องต้น นอกจากนี้ เป็นการรายงานเหตุการณ์ในภาพรวมตั้งแต่ต้นจนจบให้กับพล.ต.ต.สุรชัย รองผบช.น. โดยวันนี้พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. มอบหมายให้พล.ต.ต.สุรชัย และพ.ต.อ.นพศิลป์ รองผบก.สส.บช.น. เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ อยู่ระหว่างประสานเพื่อเชิญตัวอดีตแม่บ้านชาวพม่า ซึ่งเป็นแม่บ้านรายแรกที่ทำงานกับกลุ่มผู้ต้องหา มาสอบปากคำถึงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงที่มาที่ไปของตู้แช่ซึ่งใช้บรรจุศพ

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับนายปีเตอร์นั้นยังคงถูกควบคุมตัวในรพ.ตำรวจ เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บ และแพทย์ยังไม่อนุญาตให้ออกจากรพ. โดยตำรวจยังไม่สามารถติดต่อญาติหรือคนรู้จักของผู้ตายได้ และอยู่ระหว่างประสานกับต่างประเทศเพื่อตรวจสอบชื่อผู้ตายที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบประวัตินายปีเตอร์ เนื่องจากไม่พบชื่อนายปีเตอร์ในการทำธุรกรรมและติดต่อทางราชการเป็นระยะเวลานานมาก ประกอบกับใช้พาสปอร์ตปลอมซึ่งพาสปอร์ตและชื่อ รวมถึงใบหน้าก็ไม่ซ้ำกัน