เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจติดตามการเฝ้าระวังและแก้ปัญหาน้ำเร่งระบาย รวมถึงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณซอยชินเขต (งามวงศ์วาน) ไปรษณีย์ไทยสำนักงานใหญ่ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.1 พัน 2 รอ.) และบริษัท โฟร์โมสต์อาหารนม (กรุงเทพฯ) จำกัด ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่
นายจักกพันธุ์ เปิดเผยว่า ได้มาดูพื้นที่บริเวณถนนงามวงศ์วานและถนนแจ้งวัฒนะ เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาจำนวนมาก ส่งผลให้มีน้ำที่ต้องเร่งระบาย สำหรับบริเวณถนนงามวงศ์วานนั้นได้หารือกับผู้อำนวยการเขตหลักสี่ในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในซอยชินเขต 1 และ 2 เพื่อส่งน้ำไปยังสถานีสูบน้ำคลองลาดโตนด และดึงน้ำลงคลองเปรมประชากร อีกส่วนหนึ่งจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อดึงน้ำไปลงคลองท่าทราย ลงคลองบางตลาด และต่อไปลงคลองเปรมประชากร
ส่วนถนนแจ้งวัฒนะ ได้สำรวจสถานที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้กทม.ได้หารือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทยฯ ร.1 พัน 2 รอ. และบริษัท โฟร์โมสต์ฯ แล้ว เบื้องต้นจะขอติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อดึงน้ำจากถนนแจ้งวัฒนะผ่านมาที่ 3 หน่วยงาน แล้ว 3 หน่วยงานจะช่วยดึงน้ำลงคลองเปรมประชากรไป ซึ่งจะสามารถช่วยระบายน้ำได้เร็วขึ้น
จากนั้น นายจักกพันธุ์ พร้อมคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำเร่งระบายถนนรัชดาภิเษก บริเวณหน้าสวนลุมไนท์บาร์ซา รัชดาภิเษก เขตจตุจักร โดยกล่าวว่า บริเวณจุดนี้เมื่อวานนี้ได้เร่งระบายน้ำออกจากถนนจนแห้งแล้ว แต่เนื่องจากเมื่อเช้ามีฝนตกลงมาค่อนข้างหนักทำให้น้ำในคลองลาดพร้าวและคลองน้ำแก้วสูงขึ้นมาก ส่งผลให้มีน้ำเร่งระบายบริเวณถนนรัชดาภิเษก ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตจตุจักร เขตดินแดง และเขตห้วยขวาง ได้เอาเครื่องสูบน้ำมาช่วยกันเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ คาดว่าในช่วงเย็นวันนี้น้ำจะลดลงและแห้งต่อไป
นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า กทม. ได้วางมาตรการและดำเนินการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำเร่งระบายอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำความยาวรวมประมาณ 6,300 กิโลเมตร ทำความสะอาดคลองความยาวรวม 2,600 กิโลเมตร มีการติดตามการพยากรณ์อากาศ เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ รวมถึงอุโมงค์ระบายน้ำ 7 แห่ง ความยาวรวม 19 กิโลเมตร และแก้มลิงรับน้ำจำนวน 25 แห่ง สามารถรับน้ำได้ประมาณ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่คอยเก็บขยะหน้าตะแกรงด้วย
ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำจะมีเรดาร์สำหรับดูสภาพอากาศทุกวัน เมื่อสำนักการระบายน้ำทราบล่วงหน้าว่าจะมีฝนเข้ามาทางทิศใดหรือพื้นที่ไหน จะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เตรียมปฏิบัติหน้าที่ก่อนฝนจะตก ขณะเดียวกันก่อนฝนตก สำนักการระบายน้ำ จะมีการพร่องน้ำในคลองให้ต่ำที่สุดเพื่อรองรับน้ำฝนที่จะตก ซึ่งปกติจะต้องอยู่ที่ระดับ 0.00 ม. หรือระดับน้ำทะเล แต่ในวันนี้ขณะกำลังลดระดับน้ำในคลองลาดพร้าวและคลองน้ำแก้วอย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาเพิ่ม ส่งผลให้มีน้ำต้องเร่งระบาย อย่างไรก็ตามกทม. ได้เปิดเครื่องสูบน้ำในคลองต่อเนื่องทุกวันเพื่อลดระดับน้ำในคลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อน้ำในคลองสามารถลดต่ำได้มากที่สุด จึงจะสามารถรับน้ำได้มากที่สุดเช่นกัน
ขณะที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 13.50 น. ฝนเล็กน้อยถึงปานกลางเขตบางขุนเทียน ทุ่งครุ พระโขนง บางนา สวนหลวง ประเวศ ลาดกระบัง ราษฎร์บูรณะ จอมทอง บางคอแหลม ยานนาวา ลาดกระบัง จากนั้นเวลา 15.15 น. ฝนปานกลางถึงหนัก ทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรีตอนล่าง ปกคลุมเขตจตุจักร ดุสิต พญาไท ดินแดง ราชเทวี ห้วยขวาง วังทองหลาง ต่อมาเวลา 16.00 น. ฝนปานกลางตอนบนพื้นที่ฝั่งธนบุรี และฝนเล็กน้อยถึงปานกลางพื้นที่ฝั่งพระนครโดยทั่วไป ต่อเนื่อง จ.สมุทรปราการ จ.ฉะเชิงเทรา เคลื่อนตัวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่เขตพญาไท 75 มม.
ส่งผลให้มีน้ำเร่งระบายน้ำ จำนวน 12 จุด ความสูงตั้งแต่ 5-30 เซนติเมตร กว้าง 1- เต็มผิวจราจร ยาว 150-500 เมตร ดังนี้ 1.ถนนพระราม 6 เขตพญาไท ช่วงลงทางด่วน 2. ถ.ประดิพัทธิ์ แยกสะพานควาย เขตพญาไท 3.ถนนรัชดาภิเษก หน้าธนาคารกรุงเทพ เขตจตุจักร 4. ถนนประชาสุข บริเวณถ.สุทธิสาร-อินทมาระ59 เขตดินแดง 5. ถ.พหลโยธิน ช่วงซอย 8-สะพานควาย เขตพญาไท 6. ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ บริเวณหน้าตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง 7. ถนนประชาสงเคราะห์ บริเวณหอนาฬิกา ถึงตลาดห้วยขวาง เขตดินแดง 8. ถนนสุทธิสาร บริเวณซ.อินทรามระ1-9 เขตพญาไท 9. ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกสะพานควาย-คลองบางซื่อ เขตพญาไท 10. ถนนนครไชยศรี บริเวณตลาดศรีย่าน เขตดุสิต 11. ถนนราชวิถี บริเวณเชิงสะพานกรุงธน เขตดุสิต และ 12. ถนนราชวิถี หน้าม.ราชภัฎสวนสุนันทา เขตดุสิต ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำ 7 จุดเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ไปร่วมรดน้ำศพนายณรงค์ บำรุงศิลป์ อายุ 57 ปี ลูกจ้างประจำระบายน้ำ ฝ่ายโยธา เขตลาดพร้าว ซึ่งหัวใจวาย ขณะปฏิบัติหน้าที่เฝ้าเครื่องสูบน้ำในซอยนาคนิวาส 40 เขตลาดพร้าว วานนี้(25พ.ค.) แล้ว ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาเร่งระบายน้ำที่ย่านลาดพร้าว และย่านสะพานควาย
