เมื่อวันที่ 27 พ.ค. พ.ต.ท.อรรถรส ครองราช สว.สภ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งความจากน.ส.รุจิรดา พรมคง อายุ 25 ปี ชาวอุบลราชธานี ให้ดำเนินคดีคนขับแท็กซี่ สีน้ำเงิน-เหลือง ทะเบียน ทข-13 ระยอง โดยกล่าวหาว่าพยายามวางยาสลบ ซึ่งเป็นแท็กซี่ที่จอดอยู่ในบริเวณขนส่งจ.ระยองแห่งที่ 2

น.ส.รุจิรดา ให้การว่า มีอาชีพเป็นพริตตี้ ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับงานโชว์ตัวที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงได้โดยสารรถตู้โดยสารมาจากกรุงเทพฯแล้วมาลงที่สถานีขนส่งระยองแห่งที่ 2 เป็นจังหวะที่ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ตนเห็นคุณลุงคนหนึ่งยืนอยู่จึงเข้าไปสอบถามว่าจะเดินทางต่อไปอย่างไรดี เพราะเป็นคนต่างพื้นที่ ซึ่งคุณลุงก็บอกว่ามีทั้งสองแถวและแท็กซี่

จากนั้นตนเดินไปตรงจุดที่มีแท็กซี่มิเตอร์จอดอยู่ 3 คัน เห็นว่ามีผู้หญิงสูงวัยขึ้นแท็กซี่คันแรกไป จึงมั่นใจว่าเป็นจุดที่รับรู้กันว่าเป็นที่จอดแท็กซี่ ตอนนั้นเหลือแท็กซี่จอดอีก 2 คัน โชเฟแอร์คันหนึ่งวัยกลางคน อายุ 30-40 ปีเดินมาสอบถามว่าจะไปไหน ตนบอกว่าจะไปที่ อ.ปลวกแดง ระยอง ชายคนดังกล่าวบอกว่าไปรถแท็กซี่มั้ย ตนเลยตอบตกลง

น.ส.รุจิรดา ให้การว่า คนขับก็ยังบอกว่าไม่ต้องเดินไปขึ้น เดี๋ยวจะขับรถมารับ ตนจึงรออยู่ และช่วงที่ขึ้นรถ คนขับแท็กซี่ยังเปิดกระจกพูดเล่นกับแม่ค้าและคนแถวนั้นว่ วันนี้ฝนตก ฝนส่งนางฟ้ามานั่งรถด้วย

ตอนที่ตนจะขึ้นรถก็ได้ดูทะเบียนว่าเป็นรถแท็กซี่สีน้ำเงิน-เหลือง ทะเบียน ทข-13 ระยอง จากนั้นได้ส่งทะเบียนรถแท็กซี่เข้าไลน์ในกลุ่มครอบครัว เพราะทำแบบนี้เป็นประจำเวลาที่ขึ้นรถแท็กซี่

พอเข้าไปในรถปรากฎว่าไม่มีมิเตอร์ จึงถามราคาค่าโดยสารเท่าไหร่ คนขับบอกราคา 500 บาท ตนจึงต่อราคา แต่เป็นจังหวะที่มีโทรศัพท์จึงออกรถก่อนที่จะต่อรองกัน

พอออกรถมาได้ประมาณ 10 นาที บนถ.สาย36 จู่ๆ คนขับก็นำขวดยาน้ำสีเหลืองมาดม และเอือมมือหยิบถุงพลาสติกที่คอนโซลตรงกลาง หยับถุงดังก๊อปแก๊ปหลายครั้ง ก่อนที่จะปิดกระจกรถแล้วถึงเปิดแอร์

ตนรู้สึกเอะใจเพราะแค่สูดดมเข้าไปก็ถึงกับมึน และเคยมีประสบการณ์ดมยาสลบในการผ่าตัดและมีอาการคล้ายกัน จึงรีบกดลดกระจกรถ แต่กดไม่ได้ จึงรีบกลั้นหายใจเป็นจังหวะๆ พยายามสูดหายใจเข้าให้น้อยที่สุด

ตนบอกกับคนขับว่า “พี่คะ เปิดกระจกให้หนูหน่อย” แต่คนขับก็มองกระจกมองหลังเท่านั้น ไม่เปิดกระจกให้ ตนต้องพูดถึง 3 รอบ คนขับถึงยอมเปิดกระจกแล้วพูดว่า “ทำไมหรอ เมารถหรือมึนหัว”

“ตอนนั้นหนูรู้สึกมึนหัว และเห็นปั๊มน้ำมัน ปตท.อยู่ด้านหน้า จึงบอกให้คนขับเลี้ยวเข้าปั๊ม เขาก็ขับไปจอดที่หน้าเซเว่นฯ ตอนหนูเปิดประตูก็หันไปพูดกับคนขับว่า “พี่คะ เมื่อกี้พี่ทำอะไร พี่ทำอะไรพี่รู้อยู่แก่ใจตัวเอง พี่อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก”

พอพูดจบคนขับก็รีบขับออกไปทันที โดยไม่พูดถึงค่าโดยสาร หนูจึงตั้งสติและรีบถ่ายรูปรถคันดังกล่าวไว้ และยังพบว่าหมายเลขที่ติดข้างตัวรถก็ไม่สมบูรณ์มีขาดหายไปหลายตัวเลข จึงไม่ทราบว่าเป็นรถที่ถูกต้องหรือไม่”

น.ส.รุจิรดา ให้การว่า หลังจากลงรถก็รู้สึกมึนหัวและยืนไม่ไหว บรรดาแม่ค้าภายในปั๊มจึงเข้ามาช่วยพาไปนั่งพักและช่วยแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ พอพักสักครู่อาการก็เริ่มดีขึ้น จึงได้เดินทางมาแจ้งความให้เรียกตัวแท็กซี่มาสอบสวนต่อไป

เบื้องต้นตำรวจได้รับแจ้งความไว้ และได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายเพื่อหาสารที่ตกค้างว่าเป็นยาสลบจริงหรือไม่ และเตรียมประสานทาง ขนส่งจ.ระยองเพื่อหาตัวคนขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป หากพบว่าผิดก็ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาน.ส.รุจิรดาผู้เสียหายได้ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่างทางโทรศัพท์ว่า หลังแจ้งความก็รีบไปทำงานที่ห้างแห่งหนึ่งใน อ.ปลวกแดง ระยอง จึงยังไม่ได้ไปตรวจ และเวลาก็ผ่านไปหลายขั่วโมงจึงคิดว่าสารคงจะไม่มีเหลือตกค้างแล้ว

“หนูยืนยันว่าเป็นความผิดปกติแน่นอน เพราะพอหนูลงรถแล้วถ้าเป็นปกติของแท็กซี่ ก็ต้องคิดเงินค่าโดยสาร เพราะวิ่งมาหลายกิโลเมตรแล้ว แต่คนขับกลับรีบขับลงออกไปโดยไม่พูดถึงค่าโดยสารเลย จึงเป็นเรื่องแปลก จึงต้องการให้มีการตรวจสอบก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับคนอื่น และหนูได้โพสต์ในสื่อออนไลน์เพื่อช่วยกันกระจ่ยข่าวกับพฤติกรรมดังกล่าว และช่วยกันตรวจสอบหารถคันที่ก่อเหตุด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน