จากกรณีพบศพน.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวคาราโอเกะสถานบันเทิงชื่อดังใน จ.ขอนแก่น ถูกฆ่าหั่นศพยัดใส่ถังพลาสติกฝังดินในพื้นที่บ้านโนนสง่า ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา สอบพบผู้ตายแต่งงานมีสามีแล้ว แต่พบมีสาวทอมมาติดพันจำนวนมาก ล่าสุดตำรวจเชิญตัวสาวทอมชื่อป๊อปปี้และน้ำฝนมาสอบปากคำ แต่ยังให้การปฏิเสธไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต แต่ญาติให้ข้อมูลและกล่าวอ้างว่ามีสาวทอมอีกคนชื่อ ‘เบญ’ ที่เคยมาติดพันผู้ตายด้วย

อ่านข่าว ใช้ปิกอัพขนชิ้นส่วนศพ‘น้องแอ๋ม’ ตร.เร่งแกะรอยมือถือเหยื่อที่หายไปหลังโดนฆ่าหั่น

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดที่พบศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม พนักงานร้านคาราโอเกะ ซึ่งถูกคนร้ายฆาตกรรมก่อนนำศพมาหั่นเป็น 2 ท่อน ยัดใส่ถุงพลาสติกและถังดำอีกชั้น นำมาฝังดินทิ้งไว้ ที่บ้านโนนสว่าง ม.9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น โดยในการลงพื้นที่จุดที่พบศพครั้งนี้เพื่อพูดคุยกับเจ้าของที่ดินและผู้ที่พบศพ หลังพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางลัดตัดผ่านระหว่างหมู่บ้าน ห่างจากถนนมิตรภาพประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ และนำศพมาทิ้งไว้นั้นน่าจะเป็นคนในพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางดังกล่าวเป็นอย่างดี

อ่านข่าว ถึงกับหลอน! “น้องแอ๋ม” เข้าฝันแม่ให้ช่วยพาขึ้นจากหลุม-หายใจไม่ออกสุดทรมาน

ผู้สื่อข่าวพบกับนายสมภาร ดวงกลาง อายุ 78 ปี เจ้าของที่ดินดังกล่าว อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.2 บ้านคำม่วง ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น นายสมภาร กล่าวว่า ในวันที่พบศพเดินทางออกจากบ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 4 กม. ซึ่งเป็นการไปตรวจสอบที่นาของครอบครัวตามปกติ

โดยพบสิ่งผิดสังเกตคือที่พื้นดินมีสังกะสีปิดทับคล้ายกับการขุดหลุมและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง ทั้งยังพบเสียมขนาดใหญ่วางอยู่ แต่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าชาวบ้านขุดหลุมฝังสุนัข จึงกลับบ้านไปเล่าให้ลูกหลานฟัง ช่วงบ่ายลูกหลานจึงพากันย้อนกลับมาที่นาและเปิดสังกะสีออกดูพบถุงขยะสีดำ ใส่ถังสีดำฝังในดิน มีเส้นผมโผล่ออกมาจากถุง จึงรีบแจ้งตำรวจสภ.เขาสวนกวางไปตรวจสอบ ซึ่งก็พบว่าเป็นศพของหญิงสาวที่ถูกฆ่าหั่นศพและนำมาฝังดินในที่นาของตน

“จุดที่พบศพนั้นเป็นที่นาของผมเอง โดยมีถนนที่จะผ่านเข้าไปถึงบริเวณที่ดินนั้น มีทางเชื่อมกันหลายเส้นทาง แต่ละวันมีคนสัญจรไปมาจำนวนมาก เพราะสามารถผ่านไปยังตำบลหมู่บ้านอื่นๆได้ สำหรับสังกะสีที่คนร้ายใช้ปิดปากหลุมนั้น เป็นสังกะสีของผม เพราะจุดที่คนร้ายขุดหลุมฝังศพนั้น เมื่อ 20 ปีก่อนเคยเป็นที่ปลูกกระท่อมกลางทุ่งนา ซึ่งผุพังไปตามเวลา สังกะสีก็เก่าและไม่ได้เก็บรักษาคนร้ายจึงสบโอกาสเอาศพมาฝัง แล้วใช้สังกะสีเก่าของผมไปปิดปากหลุม” นายสมภาร กล่าว

นายสมภาร กล่าวต่อว่า “พอรู้ว่าเป็นศพของหญิงสาว ผมก็บอกเค้าว่าโชคดีที่มีคนมาเจอ และขอให้ดวงวิญญาณของผู้ตายนั้น ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว และบอกอีกว่าเมื่อตายไปแล้วขอให้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี ซึ่งหลังจากนี้ครอบครัวจะถางป่าออกทั้งหมด โดยเฉพาะในจุดที่พบศพให้โล่ง ไม่ให้เหลือสภาพอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ทั้งนี้ยังคงขอฝากไปยังคนร้ายว่า ไม่ควรที่จะโยนภาระให้คนอื่น

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การตรวจพิสูจน์วัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ในส่วนสังกะสีนั้นพบเจ้าของแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม เพียงแต่คนร้ายนำสังกะสีที่ถูกทิ้งมาปิดปากหลุมเท่านั้น จึงตัดประเด็นเรื่องการซื้อหรือขนสังกะสีมาใช้ในการก่อเหตุ ดังนั้น พาหนะของคนร้ายจึงเป็นรถยนต์ชนิดใดก็ได้ ที่จะใช้ในการกระทำความผิด

“วัตถุพยานอื่นๆ เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ได้เก็บรวบรวม ทั้งคราบเลือดที่พบในศพผู้ตายว่าเป็นของผู้ตายคนเดียวหรือไม่ อีกทั้งยังคงมีการขอตรวจดีเอ็นเอจากคนใกล้ชิดที่ถูกสอบสวนไปก่อนหน้านี้ สำหรับถังพลาสติกสีดำและถุงพลาสติกที่ใช้ห่อศพฝังดินนั้น พนักงานสอบสวนเก็บรักษาไว้ที่ สภ.เขาสวนกวาง เบื้องต้นคนร้ายดึงสลากราคาต่างๆทิ้งไปหมด จึงตรวจสอบไม่ได้ว่าซื้อมาจากร้านใด อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังคงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบที่หอพัก ที่ผู้ตายเคยเข้าออกและพักอาศัย ว่ามีคราบเลือดหรือพยานหลักฐานหรือไม่ โดยในรายละเอียดไม่ขอเปิดเผย” ผกก.สภ.เขาสวนกวาง กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน