คลิปสุดท้าย สาวมีรอยสัก โดดน้ำต่อหน้าชายไม่รู้จัก จุดตายบ่อย รปภ.เผยนาทีร่ำไห้

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 13 มี.ค. พ.ต.ต.ชยพล ไทยโสภา สารวัตร(สอบสวน) สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุหญิงกระโดดคลองจมน้ำเสียชีวิต บริเวณคลองบางซื่อ(คลองวัดเสาหิน)ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แยก 32/1 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมชุดประดาน้ำ มูลนิธิร่วมกตัญญู

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ที่เกิดเหตุเป็นคูคลองส่งน้ำ พบเพียงโทรศัพท์มือถือและบุหรี่ 1 ซองวางทิ้งไว้บริเวณริมคลองฯ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นชุดประดำน้ำจึงได้ลงงมค้นหาใช้เวลาเพียง 10 นาที พบผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 30-35 ปี ลักษณะผิวขาว สูงประมาณ 160 ซ.ม. ไว้ผมยาว สวมชุดนอนสีชมพู ตามร่างกายมีรอยสักที่บริเวณข้อเท้าและแผ่นหลัง โดยไม่พบเอกสารระบุตัวตน จึงนำศพส่งไปสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถามนางเอ (นามสมมติ) ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. เห็นหญิงสาวคนดังกล่าวนอนพาดอยู่บริเวณคานปูนริมคลองและเห็นผู้ชายอีก 1 คน ตอนแรกคิดว่ามาด้วยกัน จึงไม่ได้สนใจและเดินห่างไปประมาณ 50 เมตร ก็ได้ยินเสียงคนกระโดดลงน้ำ จึงรีบวิ่งกลับมาดูก็พบเพียงฟองอากาศลอยขึ้นมาจากผิวน้ำ ส่วนผู้ชายอีกคนที่เห็นก่อนหน้านี้ก็พยายามร้องตะโกนเรียกให้คนช่วย แต่ก็ไม่ทัน ซึ่งภายหลังมาทราบว่า ผู้ชายและหญิงสาวที่จมน้ำ ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเพียงอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุเท่านั้น

นางเอ เปิดเผยอีกว่า บริเวณริมคลองดังกล่าวมักจะมีคนชอบมานั่งดื่มสุราและกระโดดลงเล่นน้ำจมหายและมีผู้เสียชีวิตบริเวณนี้อยู่บ่อยครั้ง

ด้านนายศักดิ์ชัย โพธิ์เจริญ อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารแมนชั่นแห่งหนึ่ง ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา เห็นหญิงสาวผู้ตายเดินผ่านป้อมยามออกจากอาคารแมนชั่นลักษณะร่ำไห้และมีอาการคล้ายคนเมาสุรา พูดบ่นถึงเรื่องที่สามีไม่ค่อยมาหาดูแลผู้ตายกับลูก แต่ก็ไม่ทราบว่าผู้ตายอาศัยอยู่ที่ห้องพักชั้นไหนแน่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของอาคารแมนชั่นดังกล่าว พบหญิงสาวผู้ตายเดินผ่านป้อมยามออกไปยังถนนประชาราษฏร์ สาย 1 ซอย 32/1 ก่อนเกิดเหตุจมน้ำคลองเสียชีวิตดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าผู้ตายอาศัยอยู่ที่ห้องพักชั้นไหน เพื่อติดต่อแจ้งให้ทางญาติทราบ และทำการสอบสวนเพื่อสรุปสาเหตุครั้งนี้ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน