ผวาทั้งคุก! ญาติติด โควิด เข้าเยี่ยมนักโทษ สั่งกัก 2 จนท. ปิดสถานพินิจ-เรือนจำ 14 วัน

โควิด / เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 หลังมติครม.ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑลว่า

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมได้หารือกับกรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมคุมประพฤติ ให้ญาติงดเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค.นี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีข้อมูลรายงานว่าญาติผู้ต้องขังบางรายไม่รับผิดชอบต่อสังคม หลังพบว่าไปตรวจหาโควิด 19 ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและมีผลตรวจเป็นบวก แต่ยังขอเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำแห่งหนึ่ง ซึ่งโรงพยาบาลได้สืบเสาะพฤติกรรมของบุคคลผู้นี้ว่าได้เดินทางไปสถานที่ใดบ้าง จึงพบข้อมูลว่ามาขอเยี่ยมญาติในเรือนจำ และเรือนจำได้อนุญาตให้เยี่ยมผ่านกระจก 2 ชั้น และพูดคุยผ่านระบบโทรศัพท์

“กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าผู้ต้องขังรายนี้ไม่ติดโควิดอย่างแน่นอน ส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์แผนกธุรการ 2 ราย ที่ใกล้ชิดกับญาติผู้ต้องขังรายดังกล่าว ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งแพทย์แจ้งว่ามีความเสี่ยงต่ำ และไม่น่าจะติดเชื้อดังกล่าว แต่ทางเรือนจำได้ให้กักกันตัวเอง 14 วัน”

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า วิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าญาติผู้ต้องขังจะเข้าใจ โดยปัจจุบันเรือนจำมีผู้ต้องขังทั้งหมด 3.7 แสนคน หากผู้ต้องขัง 1 คนมีญาติเข้าเยี่ยม 2 คน ในกรณีที่มีการแพร่ระบาดของโควิค 19 จะมีประชาชนได้รับผลกระทบถึง 7.4 แสนคน เมื่อรวมกับจำนวนผู้ต้องขังแล้วจะเกิดผลกระทบสูงถึง 1.1 ล้านคน ดังนั้นทั้ง 3 หน่วยงานจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มงวดต่อผู้ต้องขังและผู้ถูกคุมประพฤติ การงดเยี่ยมญาติจึงเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเพื่อป้องกันปัญหา

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ทั้งเรือนจำ สถานพินิจฯ กรมคุมประพฤติจะต้องถูกคัดกรองทั้งหมด หากมีไข้สูงเกิน 37 องศาจะนำตัวส่งตรวจ แต่ถ้าอุณหภูมิไม่ถึง 37 องศาก็จะกักตัวไว้สังเกตอาการ 30 วัน และงดกิจกรรมที่ให้ผู้ต้องขังออกไปทำงานนอกสถานที่ทั้งหมดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนกระแสข่าวผู้ต้องขังเรือนจำกลางเชียงใหม่ที่มีไข้สูงนั้น เรือนจำได้ตรวจสอบแล้วไม่พบตามที่เป็นข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน