เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. ที่เรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น กำลังเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ กว่า 20 นาย วางกำลังบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น เพื่อรับตัว น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ”เปรี้ยว” อายุ 24 ปี น.ส.กวิตา ราชดา อายุ 25 ปี หรือ “เอิร์น” และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี หรือ “แจ้” 3 ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม ที่ อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนกระบวนการของศาล
โดยทันทีที่รถควบคุมตัวผู้ต้องหาจากเรือนจำกลาง จ.ขอนแก่น มาถึง ซึ่งนำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ขับเข้ามาภายในเรือนจำกลางขอนแก่น ถอยหลังนำตัวผู้ต้องหาหญิงทั้งหมดนำส่งให้กับแดนแรกรับ ซึ่งในรถคันดังกล่าวนี้นั้นได้ควบคุมตัว น.ส.ปรียานุช น.ส.กวิตา และ น.ส.อภิวันทน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ขอนแก่น ในข้อกล่าวร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝังซ่อนเร้น หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์หรือรับของโจร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ สภ.เขาสวนกวาง ควบคุมตัวมาขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก 12 วัน จากการร่วมกันก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม โดยศาลจ.ขอนแก่น มีคำสั่งขังผู้ต้องหาทั้ง 3 ทันที โดยมีนายวีรชัย เพชรรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น คอยกำกับควบคุมดูแลให้เป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 เดินทางมาพร้อมกับผู้ต้องหารายอื่น แต่มีการแยกเฉพาะผู้ต้องหาทั้ง 3 นั่งบริเวณตอนท้ายของรถฝั่งด้านขวา ร่วมกับนักโทษหญิง โดยทันทีที่เดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ได้ขับรถควบคุมตัวนักโทษ เข้าไปภายในพื้นที่รับตัวผู้ต้องหาด้านในเรือนจำกลางขอนแก่นทันที โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในโดยเด็ดขาด
นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวว่า ผู้ต้องหาใหม่ทั้ง 3 คนจะต้องถูกปฎิบัติเช่นเดียวกันกับผู้ต้องขังใหม่คนอื่น ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ โดยเมื่อเดินทางมาถึงจะเข้าในพื้นที่แรกรับ ทำการตรวจร่างกายและทรัพย์สินโดยเจ้าหน้าที่หญิง ซึ่งหากมีของมีค่าหรือทรัพย์สินต่างๆ จะถูกจัดเก็บไว้โดยเจ้าหน้าที่ จากนั้นจะเข้ารับการสแกนร่างกายอย่างละเอียด การตรวจสอบร่างกาย การพบจิตแพทย์ และรับประทานอาหารเย็น ซึ่งเรือนจำจัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้ต้องขังรายใหม่ และผู้ต้องขังที่เสร็จสิ้นกระบวนการทางศาลอยู่แล้ว จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนของการทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ซึ่งเมื่อหมดขั้นตอนดังกล่าวแล้ว และจะส่งตัวให้กับแดนหญิง ซึ่งเป็นที่พักของผู้ต้องหาหญิงทั้งหมด
“ผู้ต้องขังทั้ง 3 ที่เข้ามาใหม่นี้นั้นจะถูกแยกการคุมขังออกจากกัน ซึ่งเป็นวิธีปฎิบัติของการควบคุมตัวผู้ต้องหาหากเป็นคดีเดียวกัน และคดีนี้มีผู้ต้องขังหญิงทั้งหมด 4 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำแห่งนี้ ซึ่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำแดนหญิงดำเนินการอย่างรัดกุม” นายวีรชัย กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า การสอบสวนคดีดังกล่าวนี้มีการตรวจสำนวนอย่างดี โดยในการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันนี้ทั้งหมด 7 จุด เริ่มจากรีสอร์ทที่ใช้ในการหั่นชำแหละศพ จุดที่ 2 ที่ร้านสะดวกซื้อบริเวณสี่แยกตลาดโนนทัน เขตเทศบาลนครขอนแก่น จุดที่ 3 ที่ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างห่างจากร้านสะดวกซื้อ 500 เมตร จุดที่ 4 ร้านจำหน่ายสินค้าทั่วไป ตรงข้ามร.ร.เทศบาลบ้านโนนทัน จุดที่ 5 บริเวณริมถนนปากทาง ซ.หน้าเมือง 3/1 จุดรับผู้ตาย จุดที่ 6 จุดที่ผู้ต้องหาทิ้งเลื่อยที่ใช้ในการก่อเหตุ
ซึ่งเป็นจุดที่ น.ส.เปรี้ยว ระบุว่า หลังจากชำแหละศพเสร็จล้วยังคงไม่เดินทางไปยัง ที่อ.เขาสวนกวาง ทันทีแต่ได้เลี้ยวซ้ายลงถนนทางหลวงชนบทไปในเขตบ้านหนองหารจาง ต.น้ำพอง และขับลัดเลาะไปตามถนนเส้นทางระหว่างหมูบ้าน เพื่อทิ้งเลื่อยและพยายามจะฝังศพ แต่เปลี่ยนใจทิ้งแค่เลื่อยเท่านั้น จากนั้นขั้นตอนของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพสิ้นสุดที่จุดที่ 7 คือจุดที่ทิ้งศพ ที่ผู้ต้องหาทุกคนได้ร่วมกันขุดหลุม นำศพลงฝังเพื่ออำพรางคดี
“ผู้ต้องหาให้การที่คล้ายกัน ทำให้แนวทางการสอบสวนนั้นครบทุกขั้นตอน จากนี้ไปคือการสรุปสำวนคดีเพื่อสั่งฟ้องให้กับอัยการ โดยในขณะนี้ทุกคนจะต้องถูกคุมขังที่เรือนจำกลางขอนแก่น และทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ตามการขออำนาจศาลฝากขังในช่วงของการสอบสวนรวบรวมพยาน โดยสามารถขออำนาจศาลฝากขังได้ทั้งหมด 7 ฝากๆละ 12 วัน ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 5 อยู่ในขั้นตอนของการฝากขังผลัดแรก และพนักงานสอบสวนยังคงคัค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด” พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ กล่าว
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวต่อว่า ในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพสาเหตุที่ใส่เสื้อเกาะกันกระสุนให้กับ น.ส.เปรี้ยวนั้นเพราะเปรี้ยวคือผู้ต้องหารายสำคัญ ทำให้การดำเนินงานต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ต้องรัดกุมในทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม จากสำนวนการสอบสวน พยานหลักฐาน รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดยังคงยืนยันว่าพนักงานสอบสวนมีเพียงพอและรัดกุมที่สุดในการเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้ แม้จะให้การปฎิเสธในชั้นศาลก็ตาม ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหามีเพียง น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ เป็นผู้ต้องหาคนที่ปฎิเสธที่ทุกข้อกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่พนักงานสอบสวนควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 3 มายังศาล จ.ขอนแก่น ถูกควบคุมตัวไว้ที่ห้องควบคุมชั้นใต้ดินอาคารสำนักงานศาล โดยตั้งแต่ที่ศาล จ.ขอนแก่น รับตัวผู้ต้องหาจนถึงปิดเวลาทำการศาล ก็ไม่มีญาติหรือทนายความของผู้ต้องหาเข้ายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด จึงมีหมายสั่งขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คนทันที
