จากกรณีตำรวจสน.บางซื่อจับกุมนายจิมมี่ หรือบัง อายุ 20 ปี ชาวเมียนมา ผู้ต้องสงสัยฆาตกรฆ่าโหดคนเก็บของเก่ามัดมือมัดเท้าเสียชีวิตไป 3 ศพย่านรังสิต พื้นที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยตำรวจสามารถจับกุมได้แถวจตุจักร ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.บางซื่อ และมีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. มาร่วมสอบสวนด้วย ก่อนคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว ตร.ประตูน้ำจุฬาฯ คุมตัว “จิมมี่” เค้นสอบต่อ พร้อมเรียกพยานชี้ตัว
ความคืบ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. พล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาทางตำรวจภูธรปทุมธานีเดินทางไปรับตัวนายจิมมี่มาสอบสวนปากคำเพิ่มเติม อย่างละเอียดอีกครั้งที่ห้องสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เข้ามาเก็บลายนิ้วมือของผู้ต้องหาอีกครั้ง และติดต่อพยานที่เห็นหน้าคนร้ายในวันเกิดเหตุมาชี้ตัวผู้ต้องหา ขณะเดียวกันยังนำรถจักรยานแบบผู้หญิงสีเทาที่เบาะด้านท้ายมีตะกร้าใส่ผลไม้สีน้ำเงิน ถูกมัดด้วยสายยางรัดของ ซึ่งเป็นรถของกลางที่ผู้ต้องสงสัยปั่นผ่านกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ มาตรวจสอบด้วย
พล.ต.ต.ถาวร กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายจิมมี่ โดยผ่านล่ามชาวเมียนมา นายจิมมี่ยังให้การปฎิเสธ ไม่ได้ฆ่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายแต่ให้การว่า เป็นคนเดียวกับบุคคลที่ปรากฏในภาพวงจรปิดที่ตำรวจขอหมายจับ
นายจิมมี่ กล่าวว่า เข้ามาอาศัยกินนอนอยู่แถวรังสิตที่เกิดเหตุประมาณ 1 อาทิตย์ และมีอาชีพเก็บขยะแถวตลาดรังสิตเอาไปขายหาเงินซื้อข้าวกิน ก่อนที่จะถูกจับได้ไปปั่นจักรยานมาที่กรุงเทพฯเพื่อจะมาเก็บขยะและนั่งขอทานและหางานทำ โดยเหตุผลที่ต้องวิ่งหนีตำรวจนั้น เนื่องจากตนกลัวความผิด เพราะเป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย ไม่มีบัตรอะไรติดตัวมาเลย ซึ่งก่อนนี้เคยโดนจับที่ สน.บางซื่อ มาแล้ว ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะโดนส่งตัวกลับประเทศเมียนมา และก็ลักลอบเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อช่วงปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา โดยเดินเท้าเข้ามาทางด่านแม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมาเจอกะเหรี่ยงใจดีให้จักรยานมาปั่น จึงใช้จักรยานดังกล่าวปั่นมาจากแม่สอด เพื่อเข้ากทม. และมาพักที่ตลาดรังสิตดังกล่าว
ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวต่อว่า ถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฎิเสธทางตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุเพราะมีพยานเป็นเห็นตอนก่อเหตุด้วย ซึ่งจะนำตัวผู้ต้องหาไปเข้ากระบวนการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์และส่งไปตรวจเลือดตรวจหลักฐานต่างๆ ทั้งดีเอ็นเอผู้ต้องหาเทียบเคียงกับดีเอ็นเอที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อรวมรวบพยานหลักฐานนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดธัญบุรีต่อไป
