เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบ้านพักขนาดใหญ่ 2 หลัง ตั้งอยู่บนสันเขาที่เป็นเทือกเขาสูงในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลา และป่าแหลมซำ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอทาง พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว รวบรวมเอกสารในการที่จะเสนอขอให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ซึ่งขณะนี้คาดว่าอยู่ระหว่างรวบรวมและนำเสนอ โดยคาดว่าอีก 1-2 วันนี้ก็จะสามารถออกเลขคดีพิเศษได้

ทั้งนี้ หลังจากรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ก็จะทยอยเรียกผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงนายบุญชัย เบญจรงคกุล หรือเจ้าสัวบุญชัยด้วย ส่วนการตรวจสอบพื้นที่แปลงข้างเคียงซึ่งคาดว่ามีพื้นที่นับ 1,000 ไร่ ที่อยู่รอบพื้นที่ของบ้านสองหลังดังกล่าวที่เราได้เข้าทำการตรวจค้นก่อนหน้านี้ ก็จะทยอยสืบสวนสอบสวนและรับเป็นคดีพิเศษต่อไป

“ดีเอสไอต้องทำทุกแปลงที่พบว่ามีการบุกรุก ไม่ได้เลือกทำเฉพาะแปลงใดแปลงหนึ่ง เพราะอยู่ในบริเวณเดียวกันหมด หลังจากนี้ก็คงต้องรอการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่รายแรกจนถึงรายสุดท้าย และรวมถึงเจ้าของที่แท้จริงด้วย” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีการพบภาพบุคคลอยู่ภายในบ้านที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้น อาจมีการกล่าวอ้างได้ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เป็นข้ออ้างที่สามารถอ้างได้ แต่พนักงานสอบสวนก็จำเป็นที่จะต้องเรียกตัวมาสอบปากคำอยู่ดี

วันเดียวกัน นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ และหัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบคฤหาสน์หรูบนยอดเขา ในพื้นที่อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ประสานงานมาทางกรมป่าไม้ เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบเป็นบ้านพักตากอากาศหรูขนาดใหญ่ เป็นบ้านล้อมดาว มีท่าเทียบเรือติดอ่าวพังงา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลา และแหลมซำ

นายอรรถพล กล่าวว่า เมื่อขอตรวจสอบเอกสารการครอบครองที่ดินพบมีการออกเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3ก เนื้อที่ 39ไร่ แต่จากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศในปี 2510 พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์มาก่อน และพบเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชัน จึงสันนิษฐานว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่อาศัยในเขตป่าไม้ตามระเบียบ

โดยขณะนี้ทางดีเอสไอ ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของเรื่องจะเร่งตรวจสอบว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ หากพบว่าเอกสารออกโดยมิชอบและทำการเพิกถอนที่ดินแล้ว กรมป่าไม้จึงจะมีหน้าที่ดำเนินกฎหมายตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในส่วนที่มีการอ้างว่าเป็นบ้านพักที่พระธัมมชโยหลบซ่อนตัวนั้น ไม่พบร่องรอยของพระธัมมชโย รวมทั้งลูกศิษย์หรือคนใกล้ชิด และไม่มีสิ่งผิดกฎหมายใดๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน