จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิป การนวดกดจุดที่บริเวณคอ โดยอ้างว่าเป็นการนวดเพื่อรีเฟรชสมอง ซึ่งพบว่าผู้ที่ได้รับการกดจุดมีอาการเหมือนสลบและกระตุก ก่อนจะฟื้นขึ้นมาเหมือนปกติอีกครั้ง โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวอ้างว่าเป็นการละเมอและล้างขยะสมอง

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การนวดกดจุดบริเวณท้ายทอยถือเป็นจุดที่อันตรายสูงสุด เพราะบริเวณท้ายทอยจะมีเส้นเลือดใหญ่อยู่ 4 เส้น เป็นคู่หน้า 2 เส้น และคู่หลัง 2 เส้น หากถูกกดไว้จะทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงก้านสมองได้เพียงพอ และทำให้สมองส่วนการรับจอภาพเกิดการมืดลงและมองไม่เห็น

อีกทั้ง หากคนที่มีความผิดปกติของเส้นเลือดหรือมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอาจทำให้เกิดภาวะตาบอดชั่วคราวหรือถาวรได้ ดังนั้น การนวดกดจุดดังกล่าวจะทำให้เป็นการฆ่าคนได้อีกอย่างหนึ่ง จึงเป็นการนวดที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีในคลิปวิดีโอดังกล่าว ที่ผู้ถูกนวดมีอาการชักกระตุกหรือหมดสตินั้น เกิดขึ้นจากการที่เลือดไม่ไปเลี้ยงก้านสมอง หากถูกกดไว้นานจะทำให้ตาบอดหรือเป็นอัมพาตได้ ส่วนหลักการที่มักมีการพูดกันว่าการนวดบริเวณดังกล่าวเป็นการเปิด ปิดประตูลม เนื่องจากเป็นการปิดการทำงานของเส้นเลือดคู่หลัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ห้ามโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายอย่างที่กล่าวมาแล้วได้

จึงขอย้ำว่าการนวดแบบนี้ถือเป็นการการฆ่าคนอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ หากคนที่มีอาการปวดบริเวณต้นคอหรือท้ายทอย ควรหาสาเหตุว่าอาการปวดดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร และให้พบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน