เริ่มแล้วไลฟ์สดโครงการ “พลังใจ พลังฮีโร่ สู้โควิด 19” ผ่านเฟซบุ๊กข่าวสด รมช.สธ. ยก อสม. เป็นหน้าด่านดูแลกักกันผู้มีความเสี่ยง หวัง18เดือนไทยมีวัคซีนสู้โควิด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 เม.ย. เพจเฟซบุ๊กข่าวสด เริ่มการถ่ายทอดสด ไลฟ์สตรีม โครงการ ‘พลังใจ พลังฮีโร่ สู้โควิด-19’ ทางเพจที่มีผู้ติดตามกว่า 13.8 ล้านคน รายการดังกล่าวจัดโดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเผยแพร่ให้สาระความรู้ สอดแทรกความบันเทิง และประสบการณ์การทำงานช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในปัจจุบัน รูปแบบการถ่ายทอดออนไลน์ยังสอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อระดมทุนส่งไปช่วยเหลือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ เชิญชวนประชาชนโอนเงินผ่าน บัญชี พลังใจ พลัง ฮีโร่ สู้โควิด-19 กระแสรายวัน เลขที่ 1933065664 ธนาคารกรุงเทพ สาขาประชาชื่น

ทั้งนี้รายการ 2 ชั่วโมงแรก 10.00-12.00 น. เริ่มต้นด้วย Live Talk : “พลังเงียบฮีโร่ไทย ต้านภัยโควิด” ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ก่อนช่วงโควิด ตนก็พยายามลงไปให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากว่าระบบสาธารณสุขของไทย เป็นระบบที่เรียกว่าเป็นระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า คือเรารักษาทุกคน ทำให้งานของบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ทำงานหนักเพราะฉะนั้นภายใต้หลักการนี้ สิ่งที่เขาต้องการคือกำลังใจ

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า โชคดีที่เรามีคนเชี่ยวชาญทางด้านโรคระบาดในแง่ของการควบคุมโรค ซึ่งก็ปรับมาใช้กับโคโรน่าไวรัส ช่วงแรกๆจะมีความกังวล แต่บุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข มีความตื่นตัวและมีการพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การจัดการของทุกโรงพยาบาล มีการแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน

“หน่วยที่ได้รับความการชื่นชมค่อนข้างเยอะและมัก ถูกเรียกว่าเป็นพลังเงียบ ที่สามารถทำให้องค์การอนามัยโลกเห็น เขาบอกว่าสิ่งที่ทำให้สถานการณ์การระบาดของโรคในไทย ทำได้ค่อนข้างดี ก็คือพลังจากอสม เท่าที่รัฐมนตรีลงไปคุยกับอสม.มา และดูแผนงานเขามีการวางระบบงานอย่างไร ต้องชื่นชมพี่น้องอสม.ทั่วประเทศ มีจิตอาสาที่พร้อมปฏิบัติตามองค์ความรู้ที่กระทรวงมอบให้ มาอบรมและปฏิบัติตาม ด้วยสถานการณ์แบบนี้เราต้องมีอุปกรณ์ให้เขาพร้อม โดยเราสนับสนุนผ่านไปทางผู้ว่าราชการจังหวัด ชุดที่ได้รับบริจาคมาเราก็เอาไปให้อสม.ด้วย นอกจากนั้นก็กำลังขยายการมอบประกันในแง่ของถ้าเขาติดเชื้อจะได้เงิน” รมช.สาธารณสุข กล่าว

ดร.สาธิต กล่าวอีกว่า ในสภาวะวิกฤตเขาสามารถใช้ศักยภาพที่มี ทำให้คนเห็นว่าอสม.ไม่ใช่แค่เป็น อาสาสมัครหรือจิตอาสาที่ไม่มีประสิทธิภาพ เหมือนอย่างที่คนเคยวิพากษ์วิจารณ์ วันนี้อสม.ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เขาได้เป็นหน้าด่านในการที่จะทำหน้าที่ดูแลกักกันผู้มีความเสี่ยง ดูแลผู้ป่วยจากโรงพยาบาล ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ ขณะนี้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มของเราน้อยลงแล้ว แต่ยังประมาทไม่ได้แม้แต่วันเดียว หากประมาทตัวเลขอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

“เรื่องวัคซีน ถ้ามีวัคซีนก็จะป้องกันไม่ให้ป่วยได้ ซึ่งขณะนี้เรากำลังร่วมมือกับต่างประเทศมีการทำวิจัย เดือนหน้าจะทดลองสั่งยา เราหวังว่าใน 18 เดือนเราจะมีวัคซีนไวรัสโควิดได้ด้วยตัวเองในประเทศไทย เราทำทั้ง 2 ทาง คือเราร่วมมือกับเขาถ้าผลิตได้ก็จะขอซื้อวัคซีนกับเราผลิตเอง นี่คือความหวังในแง่ของการป้องกันโรค” ดร.สาธิต กล่าว

กรมอนามัยกำลังนำเสนอ setting ในแง่ของกิจการค่อยๆเกิด จะต้องมีบรรทัดฐานใหม่อย่างไร เช่น สปา ร้านอาหาร ภายใต้ที่เราจะเปลี่ยนผ่านไปสู่การกลับคืนสู่ภาวะปกติจะต้องทำอย่างไร คงไม่เหมือนเดิม ตลาดสดจะต้องเป็นอย่างไร ร้านอาหารอาจจะได้ 3 คน ซุปเปอร์มาร์เก็ตก็อาจจะปรับเปลี่ยน มีการเว้นระยะตามเชลต่างๆ จัดของตามมาตรการ

ส่วนแนวทางในการกักกัน ขณะนี้แผนการการรักษาเราร่วมมือกับโรงเรียนแพทย์ ศิริราชจุฬาฯ รามาฯ โรงพยาบาลเอกชน กทม เพื่อเอาเตียงที่แยกพิเศษมารวมกัน เพื่อรองรับผู้ป่วยรวมแล้วประมาณ 600-2000 เตียง สำหรับผู้ป่วยโควิด เรามีห้องแยกความดันติดลบห้องแยกผู้ป่วย ประมาณเกือบ 200 เตียง โดยแผนการรักษาไม่มีปัญหาอะไรถ้าผู้ป่วยมีวันละไม่เกิน 3,000

ต้องให้พี่น้องคนไทยเข้าใจสถานการณ์ก่อนว่า มันเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่แค่เพียงประเทศเรา ในหลายประเทศเขามีความเจริญทางเศษฐกิจแต่ก็เจอสภาวะที่หนักกว่าเรา สถานกาณ์บ้านเราก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ถ้าลำบากมาก อยากให้หาคนที่เราจะสามารถระบายได้ ให้คำปรึกษาได้ อาจจะเป็นคนในครอบครัว หรือถ้าอยู่ต่างจังหวัดมีปัญหาอะไรอาจจะข้อคำปรึกษาจากกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปัญหาจะได้คลี่คลาย อย่าสะสมความเครียดจนเกิดเป็นซึมเศร้าและนำไปสู่การฆ่าตัวตาย

อยากให้มองคนที่อาจจะแย่กว่าเรา ประเทศอื่นที่มีปัญหาหนักกว่าเรา เข้าใจปัญหา เข้าใจสถานการณ์ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง สามารถโทรปรึกษาปัญหาได้ที่เบอร์ 1323 หรือปรับของหน่วยงานต่างๆ ที่จะช่วยเรื่องปัญหาสุขภาพจิตได้ ปีที่แล้วมีคนโทรเข้ามากว่า 200,000 เบอร์ ช่วงนี้เองก็เป็นช่วงที่มีคนโทรเข้ามาจำนวนมาก และอาจจะโทรติดยากนิดหน่อย แต่ยังโทรเข้ามาได้อยู่

“ฝากให้กำลังใจสื่อมวลชน ให้กำลังใจบุคคลกรทางการแพทย์ ให้กำลังใจประชาชนทุกคน ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน สิ่งที่เป็นกำลังใจให้เราได้คือวันนี้เรามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเพียง 15 คน ระดับอาเซียนเราเป็นอันดับ 5 แสดงว่าพวกเราร่วมมือร่วมใจกันได้ดีแล้ว ถ้าวิ่งอีกนิดเดียวก็ถึงเส้นชัยแล้ว สิ่งที่กังวัลคือคนเริ่มใช้ชีวิตกันตามปกติมากขึ้น ถ้าหากเราประมาทอาจจะกลับไปสู่วิกฤตอีก มันจะกลับมาแน่นอน ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนอย่าประมาท ถ้าจำนวนมากเกินไปเราคุมไม่ได้มันจะแย่” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

จากนั้นเวลา 10.30 – 11.00 Live Interview : อสม. ฮีโร่ด่านหน้า พุ่งชนโควิด, “สายด่วนกรมสุขภาพจิต” ให้ประชาชนสามารถโทรเข้ามาปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ตลอดทั้งวัน ต่อด้วย 11.00 – 11.40 น. ชม Live Entertain VTR : เพลง รวมใจไทยข้ามโควิด-19 ของแอ๊ด คาราบาว , แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ และชมCooking at Home : ราดหน้าต้มยำทะเล มาม่ากรอบ, ข้าวหน้าหมูสไลด์ไข่ออนเซน โดย เชฟจารึก ศรีอรุณ แชมป์เหรียญทองการแข่งขันอาหารระดับโลก และ เชฟทรงพล วิธานพัฒนา เหรียญทองโอลิมปิก

ปิดท้ายด้วย 11.40 – 12.00 Live Charity : เชิญชวนบริจาคให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจาก 4 ภาค มอบข้าวกล่อง โรงพบาบาลราชวิถี ในรายการข่าวสุดจุดเกิดเหตุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน