กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มวัยรุ่น 5 คนเข้าไปหาของป่าเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ภายในสวนยางพารา พื้นที่หมู่ 1 บ้านตอหลัง ต.ตอหลัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้นายพีระพัฒน์ เเต้วเอียด อายุ 18 ปี ชาวจ.ปัตตานี และนายอรรถวุฒิ จันทร์หอม อายุ 19 ปี เสียชีวิต 2 ศพ และเด็กชายอายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามตามตัวผู้ที่รอดชีวิตอีก 3 คน โดยประสานไปยังผู้ปกครอง ซึ่งปรากกว่ามี 2 คนที่หนีตายจนรอดชีวิตและเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เล่าเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ส่วนอีก 1 คน คือ นายณัฐภพ อินทรทิตย์ อายุ 18 ปี หายตัวไปซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดต่อประสานไปยังผู้ปกครอง แต่ก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่ได้กลับมาบ้าน สอบถามกับเพื่อนๆก็ยังไม่มีใครทราบข่าว จึงยังไม่ทราบชะตากรรมว่ายังมีชีวิตหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว สังเวยไฟใต้อีก2ศพ! วัยรุ่นปัตตานีเข้าไปหาของป่า เจอกราดยิงไม่ยั้ง ด.ช.13 สาหัส
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งการให้ พ.ต.อ.จีรเศรษฐ ดาวเงินตระกูล รอง ผบก. พ.ต.อ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.ยะหริ่ง พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ทพ.42 นำกำลังร่วมกว่า 50 นายเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุภายในสวนยางพารา ม.1 ต.ตันหยงจืองา อ.ยะหริ่ง อีกครั้ง เพื่อทำการค้นหานายณัฐภพ อินทรทิตย์ อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวส.แผนกช่างก่อสร้าง วิทยาลัยแห่งหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 30/3 ม.6 ต.ดอน อ.ปะนาระ จ.ปัตตานี ซึ่งหลังเกิดเหตุยังไม่พบตัว
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาในรูปแบบเดินหน้ากระดาน แต่เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นป่ารกทึบมีต้นไม้หนาแน่น เจ้าหน้าที่ต้องใช้มีดฟันต้นไม้เพื่อเคลียรพื้นที่ให้การค้นหาได้ง่ายขึ้น จนกระทั่งเวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ได้พบรองเท้าเตะ 1 ข้าง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นของนายณัฐภพๆ เจ้าหน้าที่ได้เร่งค้นหาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งได้พบร่างของนายณัฐภพห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ในป่ารก นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพสลดใจ นอนตะแคงซ้ายบ่งบอกถึงความเจ็บปวดก่อนที่จะเสียชีวิต โดยพบใส่เสื้อยืดลายพรางทหาร กางเกงผ้าร่มขายาวสีดำคาดขาว ที่ขาซ้ายมีรองเท้าเตะเพียงข้างเดียว
จากการตรวจสอบพบว่ามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าที่หน้าอก 1 นัด ซึ่งเป็นกระบอกเดียวกันที่ยิงเพื่อนอีก 2 ศพ หลังโดนยิงได้รับบาดเจ็บแต่ยังวิ่งหลบหนีได้ จนมาหลบในป่าบริเวณดังกล่าวคาดว่าเสียชีวิตตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงนำศพไปชันสูตรพลิกศพที่รพ.ยะหริ่ง และจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมนั้น ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน 9 มม. เพิ่มอีก 2 ปลอก รวมจากเมื่อวานที่พบเป็น 6 ปลอกและหัวกระสุน 4 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.มนตรี คงวัดใหม่ ผกก.สภ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุและที่รพ.ปะนาเระ เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนอีก 3 รายเชื่อว่าน่าจะปลอดภัย เนื่องจาก 1 ใน 3 ที่ออกมาพบเจ้าหน้าที่บอกว่าเห็นเพื่อนถูกยิง 2 คนส่วนที่เหลือต่างวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ต่อมาจึงได้รับการประสานจากผู้ปกครองว่า นายณัฐภพยังไม่กลับ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อค้นหาแต่ก็ไม่พบอีกทั้งรอบๆ สวนยางเป็นป่าทึบยากในการค้นหาอีกทั้งใกล้มืด ทำให้ในวันนี้เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมค้นหาอีกครั้งจนกระทั่งพบศพ นายณัฐภพๆ ส่วนอีก 2 รายปลอดภัย
สำหรับการสืบสวนสอบสวนคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนสอบปากคำพยานเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐาน พฤติการณ์ ลักษณะการก่อเหตุของคนร้าย และยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมทั้งชี้ภาพบุคคลต้องสงสัย เพื่อยืนยันตัวคนร้าย ซึ่งพยานชี้ยืนยันตัวผู้ก่อเหตุ จำนวน 2 คน คือนายซอบือรี เจะหะ อายุ 35 ปี และนายมาหะมะ สะอิ อายุ 24 ปี
จากการตรวจสอบประวัติของ ผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนพบว่ามีหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคงหลายคดี โดยเฉพาะล่าสุดผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนร่วมกันก่อเหตุคดี ยิงใส่รถยนต์ จนทำให้น.ส.สุณิสา บุญเย็น อายุ 49 ปี ครูอัตราจ้างสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อ.มายอ จ.ปัตตานี เสียชีวิต ส่วนนางชฎาพร ศรีเส้ง อายุ 52 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2559
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วม 3 ฝ่ายบูรณาการปฏิบัติในการไล่ล่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถือเป็นบุคคลอันตรายและยังร่วมกันก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะก่อเหตุกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ และยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง และอ.ปะนาเระ เชื่อว่าหลบหนีกบดานอยู่ น่าจะเป็นพื้นที่ป่าห่างไกลหมู่บ้าน และน่าเชื่อว่ามีกลุ่มแนวร่วมๆในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ
โดยกำชับให้ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายทุกจุดและให้ระมัดระวังเนื่องจากทั้งสองมีอาวุธปืน และอาจจะไม่ยอมให้ถูกจับกุมขณะเข้าปิดล้อม เชื่อว่าทั้งสองคนน่าจะมีการเลือกเป้าหมายเพื่อก่อเหตุสร้างสถานการณ์ต่อเนื่อง
ขณะที่นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานความมั่นคง 3 ฝ่าย ช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นช่วยเหลือครอบครัวผู้ตายเป็นค่าทำขวัญแล้ว
