จากกรณีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก “Rawadee Apple” โพสต์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมทั้งระบุข้อความว่า “รบกวนแชร์ให้ด้วยค่ะ มีใครรู้จักหัวขโมย 3 คนนี้บ้างคะ เหตุเกิดที่ ซอยลาดพร้าว 101 เวลาตี 1 คืน 24/6/60 มาขโมยปลาคราฟตัวใหญ่ ปลาทับทิมตัวใหญ่มาก 20 กว่าตัว ผู้ชายสะพายเป้มีรอยสักที่แขนซ้าย ผู้หญิงผมยาวหัวหยิกมีรอยสักที่แขนขวา ถ้าคนที่รู้จักรบกวน โทรแจ้งเบาะแสไปที่ สน.ลาดพร้าว ขอความกรุณาแชร์ให้ด้วยค่ะ. ปลาบ่อนี้เลี้ยง 10 ปี นานมากมีคุณค่าทางจิตใจมากๆค่ะ” โดยเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 00.53 น. ของวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 25 มิ.ย. น.ส.เรวดี เกียรติกำจรพัฒนา อายุ 44 ปี อาชีพนายหน้าประกันภัยผู้เสียหาย กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์เลขที่ 265/1-3 ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 101 ถนนลาดพร้าว แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดเรียงกัน 3 คูหา โดยจุดที่คนร้ายเข้ามาขโมยปลาที่เลี้ยงไว้นั้นเป็นบ่อที่สร้างอยู่ด้านหน้าสำนักงานนายหน้าประกันภัยวินาศภัย มีความยาวประมาณ 3-4 เมตร และไม่มีการติดตั้งรั้วแม้แต่อย่างใด

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.53 น. ของวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่มีคนร้ายเป็นหญิงเดินเข้ามาด้านหน้าสำนักงาน และทำทีนั่งอยู่ข้างบ่อเลี้ยงปลาคราฟ จากนั้นได้ใช้ถุงพลาสติกที่เตรียมมาตักปลาที่อยู่ในบ่อ แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากปลามีขนาดใหญ่ จากนั้นผ่านไปประมาณ 7 นาที ผู้ก่อเหตุได้เดินออกไปตามผู้ชายอีก 2 คนให้มาช่วย โดยพฤติกรรมฝ่ายชายรายหนึ่งใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์คอยส่องปลาที่อยู่ในบ่อส่วนชายอีกรายใช้ที่โกยขยะซึ่งหามาจากบริเวณใกล้เคียงมาช้อนปลาก่อนช่วยกันนำปลาใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมมาโดยใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ 10 นาทีและแยกย้ายกันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

น.ส.เรวดี กล่าวต่อว่า ตนมารู้ว่าปลาหายเกือบหมดบ่อในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันเดียวกัน ขณะที่กำลังจะให้อาหารซึ่งปลาที่หายไปนั้นประกอบด้วยปลาคราฟประมาณ 20 ตัว และปลาทับทิมตัวใหญ่ 1 ตัว โดยตนซื้อมาในราคาตัวละ 100 กว่าบาท ซึ่งเลี้ยงมานานกว่า 10 ปี ทั้งนี้ปลาทั้งหมดไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้เนื่องจากมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าและไม่เคยคิดจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุตนตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร.ต.อ.วิศรุต สุขสกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ลาดพร้าว เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

“อยากให้หัวขโมยปลานำมาคืน เพราะให้อาหารปลาทุกวันรู้สึกผูกพัน ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงปลาดุกเผือก 1 ตัว และปลาคราฟอีก 1 ตัวเท่านั้นที่คนร้ายนำไปไม่หมด ทั้งนี้คิดว่าคนร้ายต้องพักอาศัยอยู่ในระแวกใกล้เคียง” น.ส.เรวดีกล่าว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะพักอาศัยอยู่บริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ โดยหลังจากนี้จะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน