พี่สาว ‘วันเฉลิม’ ผู้ลี้ภัยชาวไทย เผยเบาะแสสำคัญ! เล่านาทีน้องถูกอุ้ม กว่า 10 นาที สุดทรมาน ก่อนถูกตัดสาย เปิดภาพ 3 ผู้ต้องสงสัย ถูกส่งสอดแนม

จากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยชาวไทย หลังถูกคสช.เรียกรายงานตัวและดำเนินคดีพรบ.คอมพ์ เนื่องจากเป็นแอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” ซึ่งเป็นเพจเปิดโปงข้อเท็จจริงการเผาเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปี 53 หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อเย็นวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุดแฮชแท็ก #saveวันเฉลิม ขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ ทั้งยังมีการแชร์คลิปและภาพในระหว่างที่เขาถูกลักพาตัว ในประเทศเพื่อบ้านอีกด้วย โดยในคลิปดังกล่าวนั้นพบว่า มีการพยายามช่วยของคนแถวนั้น แต่สุดท้ายต้องถอยร่นออกมา

“เจน สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” พี่สาวของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เปิดใจหลังจากการหายตัวไปของน้องชาย ใกล้ครบ 24 ชั่วโมง และยังมีความหวังว่า น้องชายของตน คงจะยังมีชีวิตอยู่ และหวังว่าจะได้พบเจอกันอีกครั้ง

เจน เริ่มบทสัมภาษณ์ ด้วยการเล่าว่า มีสายอยู่สองสาย แจ้งกับตนว่า อาจจะต้องทำใจว่าอาจจะช่วยน้องชายไม่ได้ แต่อีกทางหนึ่งก็แจ้งว่า อาจจะพอมีความหวัง และทางช่วยเขาได้อยู่ ซึ่งตนมีความหวังว่า น้องชายจะยังอยู่ และหากเราเต็มสุดความสามารถ อาจจะช่วยน้องชายได้

สิตานัน เล่าถึงวินาทีที่น้องชายถูกอุ้มว่า เหตุเกิดช่วงเย็นของวันนี้ (4 มิ.ย.) ตนกำลังคุยเรื่องธุรกิจกับน้องชายที่กำลังไปได้สวยในต่างแดน ซึ่งเป็นกิจวัตรปกติ เราคุยกันเกือบทุกวัน ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้น ต้าร์ตะโกนขึ้นมาว่า “โอ้ย…หายใจไม่ออก” นานอยู่เป็นสิบนาที (อาจมากถึง 30 นาที) โดยระหว่างที่ต้าร์ตะโกนนั้น มีเสียงแทรกเป็นภาษาต่างประเทศมาอยู่ตลอดเวลา จากนั้น สายก็ถูกตัด ทุกเบอร์ และทุกไลน์ของต้าร์ รวมถึงทุกช่องทางการสื่อสาร ไม่สามารถติดต่อต้าร์ได้อีกต่อไป

วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ในวัยเด็ก

“พี่นึกว่าต้าร์ประสบอุบัติเหตุ โดนรถชน เพราะตอนที่ต้าร์คุยกับพี่ ต้าร์ยืนซื้อลูกชิ้นหน้าที่พัก ยังไม่คิดว่าจะโดยอุ้มด้วยซ้ำ ต่อมามีคนมาบอกพี่ว่าต้าร์โดนอุ้ม พี่ถึงได้รู้ และต่อจากนั้น พี่พยายามติดต่อทุกทาง เพื่อหาทางช่วยน้องชาย โดยตอนนี้ที่ไปทำแล้ว ก็คือการแจ้งความกับทางการกัมพูชา ว่ามีเหตุเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ ทางสหประชาชาติ (UN) ก็ได้ติดต่อมาทางพี่โดยตรง และกำลังเตรียมเรื่องอย่างเร่งด่วน เพื่อส่งไปทำสำนักงานใหญ่ของ UN กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์” สิตานัน กล่าว

เจน ได้เล่าสั้นๆ ถึงวัยเด็กของวันเฉลิมว่า ต้าร์เป็นเด็กกิจกรรม ตั้งแต่สมัยมัธยม เป็นประธานนักเรียน มีความสนใจด้านการทำกิจกรรมทางสังคม ชอบช่วยชาวบ้าน เป็นคนร่าเริง เคยร่วมงานกับ สสส. ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มีความสนใจทางการเมือง ก่อนที่จะลี้ภัยจากไกลไปยังต่างแดน

ทั้งนี้ สมัยนายวันเฉลิม เป็นประธานนักเรียน เบ็ญจะมะมหาราช รุ่น 86 นั้น นายวันเฉลิมตั้งพรรคนักเรียน แล้วหาเสียง มันชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นประธาน พรรคมันชื่อ เบ็ญรักเบ็ญ สมัยนั้นไทยรักไทยกำลังหาเสียง โดยเพื่อนมักเรียกสั้นๆว่า “บักประธานต้า”

ช่วงท้าย สิตานัน เผยเหตุผลที่วันเฉลิม ไม่ยอมลี้ภัยต่อไปยังประเทศในสหภาพยุโรปว่า เพราะน้องชายต้องการทำธุรกิจต่อที่นี่ ธุรกิจกำลังไปได้ดี มีเพื่อน และผู้หลักผู้ใหญ่จำนวนมาก ให้การสนับสนุนในการทำธุรกิจเพื่อดำรงชีวิตที่นี่ เลยยังไม่คิดที่จะย้ายถิ่นฐานหรือลี้ภัยไปอยู่ที่อื่น

เมื่อถาม สินันตา ว่า ทราบหรือไม่ ว่าใครคือกลุ่มคนที่ก่อเหตุอุ้มน้องชายตัวเองอย่างอุกอาจในครั้งนี้ เจ้าตัวตอบว่า เท่าที่ได้ยินจากการคุยโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย ผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนไทย เพราะพูดภาษาต่างชาติ และเชื่อว่าได้รับการจ้างวานมาอีกทีจากกลุ่มคนมีสี

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เพื่อนวันเฉลิมเผย ต้าร์ส่งข้อความมาแจ้ง บุคคลคล้ายเจ้าหน้าที่ไทย มาติดตามถึงกัมพูชา โดยได้ติดตามตน นายจักรภพ เพ็ญแข และ พ.ต.อ.รายหนึ่ง ต่อมา พ.ต.อ.รายนั้น ตายเพราะโอเวอร์โดส ทั้งนี้เจ้าตัวยังเล่าอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รัฐไปหาแม่ของวันเฉลิมที่บ้าน จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 13 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมาอีกด้วย


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน