จากกรณี ตำรวจกองปราบปรามจับกุม นายธันพิชา รอดหนองเข็ง หรือ น้องมายด์ อายุ 28 ปี สาวประเภทสอง ได้ที่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม. หลังก่อเหตุแทง นายมานพ อำท้าว อายุ 27 ปี แฟนหนุ่มจนเสียชีวิต ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว เค้นสอบเครียด ‘น้องมายด์’ เสียงเริ่มอ่อย เผยปมฆ่าโหดแฟนหนุ่มคาห้อง
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ตำรวจฝ่ายสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นำตัว น้องมายด์ กลับจากกองบังคับการปราบปราม มาสอบสวนดำเนินคดีที่ จ.ขอนแก่น หลังจากที่เดินทางมาถึง ตำรวจได้นำตัว น้องมายด์ เข้าไปภายในห้องสอบสวนทันที
โดยมีพ่อและแม่เดินทางมาที่ สภ.เมืองขอนแก่น ด้วย จากนั้นตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้ตรวจเก็บดีเอ็นเอ ของน้องมายด์ ก่อนที่พนักงานสอบสวนและ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น จะร่วมสอบปากคำ โดยมีพ่อและแม่ของ น้องมายด์ นั่งฟังด้วย เนื่องจาก น้องมายด์ อยู่ในอาการเครียดและร้องไห้
ต่อมา พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า แม้ก่อนหน้านี้หลังถูกจับกุม ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม ซึ่งท้ายที่สุดก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายจริง
เนื่องจากโกรธที่ผู้ตายคบหาคนอื่น และมีการโทรศัพท์พูดคุยกับแฟนใหม่ต่อหน้าตนเองบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาก็มีปัญหาทะเลาะกันบ่อย ถึงขั้นขอเลิกลากับตัวเองหลายครั้ง จึงเป็นสาเหตุในการก่อเหตุ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต หลังก่อเหตุผู้ต้องหาบอกว่ารู้สึกเสียใจและร้องไห้ตลอด และบางครั้งก็บ่นว่าอยากตายด้วย เพราะยังรักผู้ตายอยู่ ส่วนที่ต้องหลบหนีไปก็เพราะทำอะไรไม่ถูก
น้องมายด์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้หลบหนีโดยขึ้นรถโดยสารไปยัง จ.พิษณุโลก จ.เชียงใหม่ ก่อนจะมาที่ กทม. จนกระทั่งเงินที่ติดตัวใกล้จะหมด จึงได้นำทองน้ำหนัก 50 สตางค์ไปขายได้เงินมา 1 หมื่นบาท เพื่อใช้สอยและค่าห้องเช่า โดยได้ไปหาห้องเช่าย่านอนุสาวรีชัยสมรภูมิ แต่ด้วยตนไม่ใมมีบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย
ทำให้เจ้าของห้องเช่าบอกว่า จะไม่ให้พักอยู่นานเพราะเนื่องจากไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน โดยตนไม่ได้ติดต่อเพื่อนและพ่อแม่ ซึ่งยอมรับว่าเครียดที่ลงมือก่อเหตุฆ่าคนรัก โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวน จะสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในพรุ่งนี้
