เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (กก.1 บก.ทท.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงครามผกก.สน.ประเวศ

ร่วมกันแถลงผลการจับกุมทลายเครือข่ายยาเสพติดออนไลน์รายใหญ่ยกแก๊ง ขยายผล 100 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหา 59 คน 54 คดี พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด กัญชา 400 กิโลกรัม รวมมูลค่า 11 ล้านบาท นอกจากนี้ ยึดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ป้ายทะเบียนปลอม อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและของกลางอื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเกี่ยวพันกับกลุ่มค้ารถผิดกฎหมายข้ามชาติ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล ให้ดำเนินการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมที่เป็นองค์กรหรือเครือข่ายขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มลักรถยนต์ส่งผ่านประเทศทางแนวชายแดน กลุ่มรับจำหน่ายรถยนต์ผิดกฎหมาย จำนำรถยนต์ติดไฟแนนซ์ กลุ่มผู้ปลอมแปลงเอกสารทางทะเบียน ฯลฯ ซึ่งพบว่าปัจจุบันได้พัฒนาให้ติดต่อซื้อขาย จ้างทำของผิดกฎหมายผ่านทางโซเชียล และโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง จึงสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งบก.น.1 บก.ทท. กรมการขนส่งทางบก ปปง. และทหาร เข้าร่วมยุทรการปราบปรามปั๊มป้ายปลอม

ซึ่งผลการปฏิบัติในครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. สามารถกวาดล้างเครือข่ายจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย ได้สืบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานความเชื่อมโยงถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 2 หมาย ออกค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 29 จุด

ผบก.สปพ. กล่าวต่อว่า ในครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้อีก 2 คน คือนายรัฐพล เนื่องจำนง อายุ 35 ปี และนายปวริศร์ อัครชาญสิทธิ์ อานุ 23 ปี โดยดำเนินคดีในข้อหา อั้งยี่และร่วมกันปลอมเอกสารราชการ ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 พ.ร.บ.โรงรับจำนำ พ.ศ.2505 และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ตรวจยึดของกลางประกอบด้วย รถยนต์ 50 คัน รถจักรยานยนต์ 49 คัน อาวุธปืน 4 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 134 นัด สมุดบันทึกข้อมูล 17 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง บัตรกดเงินสด 420 ใบ สมุดบัญชี 466 เล่ม ซากสัตว์ 4 ซาก และเอกสารทางการเงินอื่นๆ อีกหลายรายการ

ทั้งนี้ ได้เข้าตรวจค้นทั้งหมด 31 จุด จับกุมผู้ต้องหารวม 19 คน อย่างไรก็ตาม จะสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือและจะดำเนินการส่งเรื่องให้ปปง. ดำเนินกาาตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เพื่อยึดทรัพย์ต่อไป

พ.ต.อ.สำราญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 ได้ทลายเครือข่ายยาเสพติดออนไลน์ 2 เครือข่ายโดยสามารถจับกุม 6 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1.นายอิสระ รัตนพลเสน อายุ 22 ปี 2.นายเจนณรงค์ หรือบอส ไชยวิเศษ อายุ 20 ปี 3.นายระวิเชษฐ หรือถั่ว เงินเจริญ อายุ 20 ปี 4.นายเสรี บุญสวัสดิ์ อายุ 58 ปี 5.นายกฤษณ์ บุญสวัสดิ์ อายุ 38 ปี และนายรัชวิศว์ ศุภรัตน์ธีรชัย อายุ 19 ปี

โดยเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ต่อเนื่องวันที่ 6 ก.ค. ได้เข้าตรวจค้นจับกุมย่านบางนา บางกะปิ ประเวศ และบึงกุ่ม รวม 5 จุด สามารถตรวจยึดของกลางยาไอซ์ 281 กรัม ยาบ้า 37,000 เม็ด กัญชา 430 กิโลกรัม อาวุธปืนไม่ทราบยี่ห้อ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก อาวุธปืน ยี่ห้อกล็อค ขนาด 9 มม. มีทะเบียน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. 96 นัด รถจักรยานยนต์ 2 คัน รถยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง

รองผบก.สปพ. กล่าวต่อว่า เครือข่ายแรกเมื่อวันที่ 5 ก.ค.งานสายตรวจ 2 ได้จับกุมนายอิสระได้ที่ทำการไปรษณีย์คลองบางนา ถ.สุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ พร้อมของกลางกัญชา 49 กล่อง รวม 73 กิโลกรัม และขยายผลไปแหล่งพักยาเสพติดที่บ้านเลขที่ 434 สวนหลวง ร.9 ซ.8/1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ พร้อมจับกุมนายเสรี และนายกฤษณ์ ยึดของกลางกัญชาจำนวน 360 กิโลกรัม อุปกรณ์การแพ็คพัสดุจำนวนมาก อาวุธปืน ยี่ห้อกล็อค ขนาด 9 มม. 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 74 นัด รถยนต์แท็กซึ่ที่ใช้ขนยาเสพติด 1 คัน

พ.ต.อ.สำาญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้งานสายตรวจ 2 ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดได้อีก 1 เครือข่าย ซึ่งได้จับกุมนายเจนณรงค์ ที่ร้านส่งพัสดุภัณฑ์บริษัทเคอรี่ เอ็กซ์เพลส สาขาแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้า 2,400 เม็ด ยาไอซ์ 0.8 กรัม บรรจุแยกกันอยู่ในกล่องพัสดุ 3 กล่อง เพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้า

จากนั้นขยายผลเข้าตรวจค้นห้องเช่าเลขที่ 406 ในซ.ลาดพร้าว 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยจับกุมนายระวิเชษฐ พร้อมของกลางยาไอซ์ 77.4 กรัม ยาบ้า 784 เม็ด กัญชา 21 กรัม ใบพืชกระท่อม 20 ใบ อาวุธปืนไม่ทราบยี่ห้อ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 22 นัด ต่อมาได้ขยายผลล่อซื้อจนจับกุมนายรัชวิศว์ ได้ที่ม.วังรุ้ง ซ.นวลจันทร์ 19 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้า 34,000 เม็ด ไอซ์ 204 กรัม รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ 1 คัน จากการเข้าจับกุมนายอิสระ นายเสรี และนายกฤษณ์ พบว่าได้ส่งพัสดุซึ่งเป็นกัญชาไปจำนวน 95 กล่อง รวม 95 จุด จึงขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 53 คน ตรวจยึดของกลางได้ที่ปลายทางอีก 31.32 กิโลกรัม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย กับนายอิสระ นายเสรี และนายกฤษณ์ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืน (ของผู้อื่น) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนนายเจนณรงค์ นายระวิเชษฐ และนายรัชวิศว์ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (กัญชาและพืชกระท่อม) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน