จากกรณีพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี อนุมัติออกหมายจับนายกาวิน สาธร อายุ 48 ปี ฐานความผิดขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและไม่แสดงตัวแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน ภายหลังขับรถยนต์ยี่ห้อวอลโว่ รุ่น 470 จีแอล สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ 6498 พระนครศรีอยุธยา ชนท้ายรถจักรยานยนต์จนเป็นเหตุให้นายธนายุทธ พุฒเพ็ง อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บและ น.ส.หนึ่งฤทัย เดชะคำภู หรือน.ส.นาดียะห์ เดชะคำภู อายุ 21 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์เสียชีวิต เหตุเกิดภายในซอยสุวินทวงศ์ 28 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. ที่สน.มีนบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวว่า หลังจากการสืบสวนหาตัวนายชัชพล แจ้งจงจิตร ผู้ที่นำรถยนต์วอลโว่ไปนั้นกลับไม่พบว่ามีตัวตนอยู่จริง ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวนได้ไล่กล้องวงจรปิดตามรถแท็กซี่ที่ผู้ต้องหานั่งหลบหนีไปกระทั่งพบว่ารถแท็กซี่เลี้ยวเข้าไปในซอยสวนสยาม จึงลงพื้นที่สืบสวนจนพบว่ารถยนต์วอลโว่เคยจอดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในซอยเสรีไทย 78
จากการสอบสวนคนในบ้านซึ่งเป็นภรรยาของนายกาวิน ให้การว่ารถวอลโว่เป็นของนายกาวิน เพิ่งซื้อมาเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว จึงนำไปสู่การออกหมายจับขณะนี้อยู่ระหว่างตามตัวมาสอบสวน อย่างไรก็ดีเมื่อคืนที่ผ่านมานายกาวิน ได้ติดต่อภรรยากลับมาถามว่ามีตำรวจมาที่บ้านหรือไม่ทางภรรยาจึงเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว โดยก่อนหน้าที่จะหลบหนีพบว่าผู้ต้องหาได้ดื่มเหล้า ก่อนหนีไป
วอลโวมอบตัว
พ.ต.อ.คมกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จึงอยากจะฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ที่ให้การช่วยเหลือ หรือที่พักพิงเพื่อใช้ในการหลบหนีซ่อนตัว ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายมาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต่อมาเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกาวิน เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.มีนบุรี พร้อมกล่าวขอโทษระหว่างเดินเท้าเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า ตนขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยขณะก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถตามทางมาปกติก่อนยางจะแตกจะไม่สามารถควบคุมได้กระทั่งชนท้ายรถจักรยานยนต์เข้าอย่างจัง โดยระหว่างนั้นตนรู้สึกตนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขับรถหลบหนีไปจอดทิ้งไว้ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 8 กิโลเมตร ก่อนขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านพักย่านสวนสยาม
