รักถูกกีดดัน! สาวประเภทสองยิงขมับพลทหาร ก่อนปลิดชีพลาโลก ทิ้งจม.ลา-รูปคู่ตั้งหน้าโลง น้องสาวเผยคบหามานาน 2 ปี แต่บ้านของฝ่ายชายกีดกัน

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 27 มิ.ย. ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว รองสารวัตร (สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตายรวม 2 ศพ ภายในหอพักไม่มีชื่อในซอยพระราม 2 ที่ 94 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9,พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9, พ.ต.อ.อำนาจ หาญชนะ ผกก.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ) แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องเช่า 40 ห้อง ซึ่งมีทั้งคนงานและพนักงานบริษัทย่านดังกล่าวเช่าพักอาศัยอยู่ จากการตรวจสอบห้องพักชั้นที่ 2 ในห้องพบศพพลทหารเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ชาวจ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันเป็นทหารกองประจำการสังกัด มทบ.12 สภาพศพนอนหงายเปลือยกาย มีผ้าห่มสีชมพูคลุมร่างอยู่บนที่นอน มีบาดแผลถูกอาวุธปืนขนาด.32 ยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุด้านซ้าย 1 นัด แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 18-20 ชั่วโมง

อีกศพเป็นสาวประเภทสอง ซึ่งเป็นแฟนของ พลทหารเอ ทราบชื่อนายน้อย (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันเป็นพนักงานขายประจำห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบางปะกอก สภาพศพสวมเสื้อยกทรงสีชมพู นุ่งกางเกงในบิกินี่สีเทา เสียชีวิตภายในห้องพักดังกล่าว โดยทางแพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 ชั่วโมง

จากการตรวจสอบสภาพห้องพัก ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นทรัพย์สิน พบเพียงอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .32 ซึ่งถูกยิงไปแล้ววางอยู่ข้างที่นอน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน น้องสาวของนายน้อย อายุ 20 ปี ให้การว่า พี่ตนคบหาดูใจกับพลทหารเอมานานเกือบ 2 ปี ระยะหลังทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง เนื่องจากทางบ้านของฝ่ายชายกีดกันและฝ่ายชายพยายามบอกเลิกกับพี่ตน ทำให้พี่ตนเกิดความเครียด

กระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา พี่ตนก็ไปหาที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ก่อนยื่นจดหมายลาตาย และภาพถ่ายหน้าตรงของทั้งพี่ตน และพลทหารเอ ระบุให้ใช้เป็นภาพตั้งหน้าศพมาฝากตนไว้ ทีแรกตนไม่ได้เอะใจอะไรก็รับไว้ และพูดปลอบใจจนมีท่าทีดีขึ้น

จนกระทั่งตั้งแต่กลางดึกวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา จนถึงรุ่งเช้าวันนี้ไม่สามารถติดต่อพี่ตนได้ จึงเดินทางมาดูพบว่าห้องล็อกลูกบิดจากด้านใน ต้องถอดบานเกล็ดหน้าต่างล้วงมือเข้าไปเปิดปลดล็อกเห็นภาพทั้งคู่กลายเป็นศพไปแล้ว โดยเชื่อว่าพี่ตนน่าจะนำอาวุธปืน ซึ่งยังไม่ทราบเป็นของใคร ยิงใส่พลทหารเอก่อน จากนั้นน่าจะทำใจอยู่นาน ก่อนตัดสินใจฆ่าตัวเองตายตาม ตนจึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมมอบหลักฐานเป็นจดหมายลาตาย และภาพถ่ายของผู้ตายทั้งคู่ให้กับพนักงานสอบสวน

ด้าน ร.ต.อ.เริงศักดิ์ เพชรเขียว กล่าวว่า ตรวจสอบจดหมายลาตายและภาพถ่ายของผู้ตายทั้งคู่ โดยจดหมายเขียนด้วยลายมือนายน้อย ระบุในทำนองว่า เสียใจที่แม่ของฝ่ายชายกีดกันจะให้แยกทาง แต่เรารักกันมากและขอตายไปด้วยกัน หากชาติหน้ามีจริงขอเกิดเป็นสามีภรรยาอยู่กันจนแก่เฒ่า อย่าให้มีสิ่งใดแยกเราออกจากกัน

นอกจากนั้น ยังสั่งเสียให้นำภาพถ่ายที่เลือกเอาไว้ทำเป็นรูปตั้งหน้าศพ ซึ่งหลังจากนี้จะมอบศพให้นิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรก่อนให้ญาติเดินทางมารับนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบไทม์ไลน์บนเฟซบุ๊กของผู้ตายทั้งคู่ ทราบว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของพลทหารเอและนายน้อย ก็ได้โพสต์แชร์รูปคู่ที่ถ่ายกันเมื่อวันเกิดฝ่ายชายปีที่แล้วมาลงอีกครั้ง

โดย ระบุถ้อยคำ “ไม่ว่าอย่างไรก็จะรักเหมือนเดิม” ซึ่งก่อนหน้านี้นายน้อย ก็เคยโพสต์ตัดพ้อน้อยเนื้อต่ำใจในเรื่องความรักบ้างเป็นบางครั้ง ขณะที่เฟซบุ๊กของพลทหารเอ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากไม่ได้ตั้งค่าให้เห็นโพสต์ในไทม์ไลน์เป็นสาธารณะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน