จากกรณีน.ส.พรทิพย์ จันทรัตน์ อายุ 44 ปี พาลูกสาว คือด.ญ.ภัทรดา แก้วผ่อง หรือ น้องบีม อายุ 14 ปี ร้องทุกข์กรณีถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความ ที่ว่าความในคดีอุบัติเหตุบนท้องถนน เมื่อเดือนก.พ. ปี2548 โกงเงินชดใช้ค่าเสียหายที่คู่กรณีจ่ายให้เป็นเงินถึง 5 ล้าน ปัจจุบันต้องตระเวนขายของตามศาลาวัด ย่านจังหวัดนนทบุรี ล่าสุดศาลจังหวัดตลิ่งชันออกหมายจับ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.60 รวม 3 คน คือ 1.นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ 2.น.ส.พรปวีณ์ ชูแก้ว 3.น.ส.ธิตาภา หรือภัทรวดี สวัสดี ข้อหากระทำผิดปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ร่วมกันฉ้อโกงและยักยอกโดยในฐานะเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน กระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินผู้อื่น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 13 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวว่า ภายศาลจังหวัดตลิ่งชันออกหมายจับนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ น.ส.พรปวีณ์ ชูแก้ว และน.ส.ธิตาภา หรือภัทรวดี สวัสดี แล้วนั้น ทางพนักงานสอบสวนอายัดตัวน.ส.พรปวีณ์ ที่เรือนจำไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนนายพิสิษฐ์และน.ส.ธิตาภา คาดว่าหลบหนีอยู่ด้วยกัน และน่าจะยังอยู่ภายในประเทศ ตนมั่นใจว่าจะสามารถจับตัวมาดำเนินคดีได้ หากเขารู้สำนึกก็ให้นำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเชื่อว่าสังคมไทยน่าจะให้โอกาส แต่ถ้าเขายังหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเร่งไล่ล่ามาดำเนินคดีให้ได้

ด้าน พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.7 เปิดเผยว่า เบื้องต้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างติดตามตัวนายตัวนายพิสิษฐ์หลังออกหมายจับไปเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบผู้ต้องหาดังกล่าวได้หลบหนีไปแล้ว และยกเลิกการใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวและหายตัวไป โดยที่ไม่ได้มีการติดต่อทางพนักงานสอบสวนสน.บางยี่ขันแต่อย่างใด ส่วนการติดตามผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คนนั้น จากการตรวจสอบพบว่าน.ส.พรปวีณ์ ภรรยาของนายพิสิษฐ์ จำคุกคิดยาเสพติดอยู่ที่จ.ชุมพร ทั้งนี้ จึงสั่งการชุดสืบสวนที่รับผิดชอบเพื่อเร่งดำเนินการติดตามตัวต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน