เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมความมั่นคง โดยมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองปราบปราม (บก.ป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.) 1,2, 7 และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยใช้เวลาในประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง (อ่านข่าว : ตรวจเข้มทั่วกรุง-ปริมณฑล เฝ้าระวัง”คาร์บอมบ์”จาก3จว.ใต้

14565604881456560866l

พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายพอล โฟลีย์ เอกอัคราชทูตด้านการต่อต้านการก่อการร้ายสหพันธ์ออสเตรเลีย พร้อมด้วย นายพอล โรเบิลริยาร์ด เอกอัคราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ซึ่งมีความร่วมมือเรื่องการป้องกันก่อการร้ายร่วมกัน ได้สอบถามข้อมูลความคืบหน้าการเฝ้าระวังการก่อการร้ายในไทย ตนจึงได้เรียกประชุมและกำชับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เนื่องโดยยอมรับว่าการข่าวมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเตรียมก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณทล แต่เป็นเรื่องปกติที่มีการข่าวออกมา

201610101756462-20110808140515

“ส่วนการข่าวมีการแจ้งเตือนว่าวันที่ 25-30 ตุลาคมนี้ จะมีการก่อเหตุนั้น การข่าวลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ผมได้กำชับไปยังพื้นที่ให้กวดขัน จับกุม ตรวจค้นรถต้องสงสัย การเดินทางของกลุ่มคนร้าย และการปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งการเฝ้าระวังก็มีตลอด เป็นไปตามแผนการป้องกันการก่อการร้ายสากล และไม่ได้เฝ้าระวังจุดใดเป็นพิเศษ แต่ก็มีการเพิ่มความเข้มตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ สถานทูต จุดล่อแหลม และสถานที่เชิงสัญลักษณ์”

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนตุลาคม ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มักจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะวันที่ครบรอบวันสถาปนากลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงมีการวิเคราะห์ตามสถานการณ์ ส่วนการแจ้งเตือนจะมีนัยยะอะไรหรือไม่นั้นตนไม่สามารถตอบได้ แต่ตอนนี้ก็มีการจับตากลุ่มเคลื่อนไหวหลายกลุ่มในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และชาวต่างชาติ แต่ไม่สามารถเปิดเผยละเอียดได้ แต่น่าจะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ที่ก่อเหตุเมื่อวันที่ 11-12 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตนไม่ทราบว่ากลุ่มเหล่านี้มีวัตถุประสงค์อะไร แต่คาดว่าน่าจะสร้างสถานการณ์

ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่มี โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสำรวจข้อมูลพื่นที่เสี่ยงที่อาจตกเป็นเป้าหมาย พร้อมจัดทำแผนเผชิญเหตุกรณีก่อการร้ายและก่อวินาศกรรม โดยมาตรการก่อนเกิดเหตุเน้นสืบสวนหาข่าว จัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็น ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรการขณะเกิดเหตุ เน้นรักษาสถานที่เกิดเหตุ การตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าสืบสวนหาข่าวเชิงลึก เพื่อควบคุมเหตุการและจัดการแก้ไขปัญหา และมาตรการหลังเกิดเหตุ เน้นการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยาน หลักฐาน ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ-ตาย และการฟื้นฟูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งให้สืบสวนหาข่าวเชิงลึกด้านความมั่นคงติดตามกลุ่มบุคคลเป้าหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวันนี้สืบเนื่องจากสายข่าว ระบุว่ามีกลุ่มคนร้ายจะมีการประกอบระเบิดคาร์บอมบ์ แล้วนำมาก่อเหตุในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ในช่วงระหว่างวันที่ 25-30 ตุลาคมนี้ จำนวน 3 จุด โดยมีเป้าหมายพื้นที่เสี่ยงต่างๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน