เมื่อวันที่ 10 ต.ค ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองผวจ. นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกอบจ.ปทุมธานี นายสาคร อำภิน รองนายก อบจ.ปทุมธานี นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต นายธวัชชัย ศรีทอง หัวหน้าสำนักงาน จ.ปทุมธานี ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำเรือขนาดใหญ่ 6 ลำมาลงบริเวณหน้าประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ภายในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ โดยใช้รถเครนทำการยกนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ เพื่อผลักดันน้ำเข้าสู่โรงสูบน้ำเร่งระบายจากคลองรังสิตฯลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
นายสุรชัย เปิดเผยว่า โรงสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์มีประสิทธิ์ภาพในการสูบน้ำมาก แต่ประสบปัญหาน้ำไหลเข้าไปในระบบสูบน้ำได้ไม่เต็มที่ ทำให้น้ำขาดช่วงและไม่สามารถเปิดเครื่องสูบน้ำพร้อมกันได้ เนื่องจากปริมาณน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ไหลไม่ทัน และไม่สัมพันธ์กับเครื่องสูบที่มีอยู่ ทำให้น้ำเอ่อล้นทางอบจ.ปทุมธานี จึงนำเรือขนาดใหญ่มาผลักดันน้ำคลองรังสิตหน้าประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์เข้าไปในโรงสูบให้เร็วขึ้น และมีปริมาณมากขึ้นให้เพียงพอต่อการเดินเครื่องสูบน้ำ
จากการทดสอบเดินเครื่องเรือผลักดันน้ำสามารถทำให้น้ำเข้าไปในระบบสูบน้ำได้อย่างเต็มที่และมีปริมาณการสูบน้ำได้เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้กรมชลประทานรอดูการทดสอบการผลักดันน้ำของจ”ปทุมธานีอยู่ ถ้ามีขีดความสามารถในการผลักดันน้ำได้ดี ก็จะทำการปล่อยน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในปริมาณเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการระบายน้ำออกจากเขื่อนได้เป็นอย่างดี
ด้านนายชาญ เปิดเผยอีกว่า นอกจากจะเป็นการผลักดันน้ำให้สู่โรงสูบได้อย่างทันทีแล้วจะอาศัยน้ำเหนือ ที่กำลังมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่มีการระบายน้ำมากขึ้น ผลักดันน้ำเสียบริเวณคลองส่งน้ำที่1 เชื่อมต่อระหว่างคลองระพีพัฒน์ลงคลองรังสิตแล้วสูบออกบริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้สภาพแวดล้อมกลับมาดีขึ้นและต้องขอความร่วมมือประชาชนอย่าทิ้งขยะลงคลองเพราะจะกีดขวางการไหลของน้ำและอาจจะทำให้เครื่องสูบน้ำชำรุดเสียหายได้
