วันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.นันทนา ทองเพิ่ม อายุ 31 ปี ชาวบ้าน ม.4 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ว่า ลูกสาวอายุ 8 ขวบ ถูก แมงมุมกัด และมีอาการแผลบวม ปวดจนถึงหัวไหล่ ตอนแรกมีอาการอาเจียน มีไข้ และไปหาหมอที่รพ.ปลายระยา และหมอให้ยามาทาน จนอาการไข้ลดลง แต่ยังไม่ทราบว่า เป็นแมงมุมชนิดใด มีพิษหรือไม่ ทำให้เกิดความกังวลเป็นอย่างมาก

โดยด.ญ.นลินทิพย์ อายุ 8 ขวบ ลูกสาวของน.ส.นันทนา ถูกแมงมุมกัดที่ข้อมือซ้าย มีบาดแผลรอยเขี้ยว 2 รู และที่แขนมีอาการบวมแดง จากนั้นน.ส.นันทนา ก็ได้นำแมงมุม ชนิดเดียวกับที่กัดลูกสาว มาให้ดู

ลักษณะตัวสีน้ำตาลลายเสือ ตัวยาวประมาณ 3 ซม. มีขา 8 ขายาวประมาณ 5 ซ.ม. ส่วนแมงมุมตัวที่กัดลูกสาวนั้น น.ส.นันทนาบอกว่า มีขนาดใหญ่กว่าเกือบเท่าตัว ได้เอาใส่ขวดพลาสติกไว้แต่ปลิวหายไป ขณะขับรถกลับจากรพ.

แมงมุมกัด

สภาพแขนเด็กหญิงที่โดน แมงมุมกัด

น.ส.นันทนา เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิด เมื่อคืนวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนไปร่วมงานศพญาติ โดยพาลูกสาวฝากที่บ้านแม่ ประมาณ 3 ทุ่ม พี่สาวได้โทรมาบอกว่า ลูกสาวถูกแมงมุมกัด ขณะนอนดูทีวีอยู่บนเตียงที่บ้านแม่ มีอาการปวด คลื่นไส้อาเจียน จึงรีบกลับมารับลูกพาไปหาหมอ ที่รพ.ปลายพระยา พร้อมทั้งพาแมงมุมที่กัดลูกสาวไปให้หมอดูด้วย

แมงมุมกัด

แม่ของเด็กยืนยันว่าเป็นแมงมุมชนิดเดียวกับที่กัดลูกสาว

แต่ไม่เจอหมอเจอแต่พยาบาล ซึ่งได้ใช้แอลกอฮอล์ เช็ดแผล โดยไม่ได้ดูตัวแมงมุม เพียงแต่บอกว่าแมงมุมในเมืองไทยไม่มีพิษ และให้ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบ กลับมาทานที่บ้าน แต่พอกลับมาบ้านลูกสาวยังบอกว่าปวดอยู่และนอนไม่หลับ ทั้งคืน และแผลก็ยังมีอาการบวม และมีน้ำใสๆไหลออกมา และวันที่15 ก.ค.ลูกสาวก็ บอกว่าปวดมากขึ้นจนไปถึงหัวไหล่และมีไข้ร่วมด้วย จึงพาไปรพ.ปลายพระยาอีกครั้ง

คราวนี้หมอ ได้ให้ยา แก้แพ้มาทาน แต่หมอก็ไม่ทราบว่า เป็นแมงมุมอะไร มีพิษหรือไม่ หลังจากเอายามาทานที่บ้าน อาการไข้ก็เริ่มทุเลาลง แต่ก็ยังกังวลอยู่ว่าแมงมุมที่กัดลูกสาว มีพิษร้ายแรงหรือไม่ เพราะ ตอนนี้ยังพบแมงมุมอีกหลายตัว เมื่อเช้าก็เจออีก 2 ตัว แต่มีขนาดเล็กกว่า จึงได้ตีให้ตายแล้ว กลัวว่ามันจะกัดคนอื่นอีก

แมงมุมกัดเสียชีวิต

ส่วนกรณีนางจันทร์ทิพย์ วงดาว อายุ 51 ปี ชาวกระบี่ ที่ถูกแมงมุมกัดที่ข้อมือซ้าย เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดนายณัฐวุฒิ ละงู อายุ 24 ปี ลูกชายนางจันทร์ทิพย์ เปิดเผยว่า มารดาได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ภายในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลกระบี่ เมื่อเวลา 04.15 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรดาญาติที่มาเฝ้าดูอาการจำนวนมาก ซึ่งทีมแพทย์พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว

ก่อนหน้านี้อาการก็ทรุดลงเรื่อย ๆ ความดันลดเหลือ 30 ชีพจรอ่อน จึงได้ติดต่อญาติมากันพร้อมหน้า และร่วมกันอ่านบทขอพรตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ทางญาติมีความเห็นร่วมกันว่า ไม่ต้องใช้ยากระตุ้นหัวใจมารดาอีก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ จากนั้นในเวลา 04.15 น.มารดาก็เสียชีวิตลงอย่างสงบ ท่ามกลางความเศร้าของบรรดาญาติพี่น้อง

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า รวมระยะรักษาตัวที่รพ.กระบี่ 7 วัน ถือเป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนที่ญาติมีโรคประจำตัว ควรต้องระมัดระวัง เรื่องของสัตว์มีพิษ อย่างไรก็ก็ตามขอขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล และผอ. รพ.กระบี่ ที่พยายามช่วยเหลือมารดาของตนอย่างเต็มที่ หลังจากนี้ก็จะนำศพกลับไปที่บ้านเกิดตำบลเขาทองเพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน