เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 ก.ค.ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป. แถลงข่าวจับกุม นายบันเทิง คุ้มถนอม อายุ 54 ปี และ น.ส.อัจฉรา หรือสุพิชชญา หรือ “เจ๊เล็ก” ผาสุกศรี อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1180 และ 1181/2560 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ

พร้อมของกลาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอาง หลายรายการ อาทิ แคลเซียมคาร์บอเนต กรดมะนาว แป้งข้าวโพด แคปซูลสำหรับบรรจุยา มูลค่า 11,390,000 บาท โดยจับกุมได้ที่หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต กล่าวว่า ก่อนหน้ามีกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า ถูกผู้ต้องหาทั้งสองหลอกลวงให้นำเงินมาลงทุนธุรกิจ ซึ่งผู้ต้องหาได้ตั้งหจก.เบอรี่ มิกซ์ โปรดักส์ รับจ้างผลิตอาหารเสริม และเครื่องสำอางทั่วไป ให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าต่างๆ พร้อมรับช่วยทำการตลาดผ่านทางสื่อออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ ซึ่งผู้ต้องหายังสร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยการถ่ายรูปคู่กับบุคคลสำคัญ ถ่ายรูปโรงงาน ซึ่งอ้างว่ามีเครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน และยังอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางเกินความเป็นจริง มีทั้งผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ ล้างสารพิษลำไส้ กำจัดไขมันส่วนเกิน, คอลลาเจนผงแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ปรับโครงสร้างผิวให้ขาวกระจ่าง และผลิตภัณฑ์สารสกัดจากดอกไม้นานาชนิด

รอง ผบก.ป. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังอ้างกับผู้เสียหายว่าสามารถขอเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์สินค้าที่ผลิตแต่ละตัว จากทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ แต่ภายหลังพบว่ามีการนำเลขทะเบียน อย.ผลิตภัณฑ์สินค้าของผู้อื่นมาใช้ จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ถูกหลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการไปนับ 10 ราย หลังโอนเงินไปแล้วผู้เสียหายบางคนไม่ได้รับสินค้า หรือบางรายได้รับสินค้าแต่ก็ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อมีผู้นำไปรับประทานจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ ใจเต้นเร็ว อ่อนเพลีย เป็นอันตรายต่อร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับ พร้อมเข้าตรวจค้น ยึดของกลางไว้ได้ดังกล่าว

เบื้องต้นสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ไปหาซื้อวัตถุดิบจากแหล่งต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาผลิตสินค้าต่างๆ โดยทำกันเพียงลำพังสองคน ส่วนเรื่องที่ไม่สามารถส่งสินค้าให้กับผู้เสียหายได้ ก็เพราะว่าตนนำเงินของลูกค้าไปลงทุนทำธุรกิจอย่างอื่น แต่ขาดทุนจึงทำให้ไม่สามารถหาเงินมาใช้ในผลิตสินค้าให้กับผู้เสียหายได้

จากการตรวจสอบประวัติของนายบรรเทิง พบว่าเคยถูกดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารและยาฯ รวมทั้งเคยถูกดำเนินคดีข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา อีกด้วย หลังการสอบสวนก็ได้ส่งตัวให้สภ.พระสมุทรเจดีย์ ดำเนินคดีต่อไป








Advertisement

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน