จากกรณีนายอนันต์ แสงอุไร อายุ 66 ปี เจ้าของร้านแมสเซ็นเจอร์ ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ ตั้งอยู่เลขที่ 363/1 ถนนราชพฤกษ์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม. เสียชีวิตคากองเพลิงภายในร้านอย่างปริศนา โดยญาติติดใจถึงสาเหตุการตาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บก.น.9 และสน.บางขุนเทียน ร่วมกันเดินทางไปยังบ้านพักแห่งหนึ่งย่านบางขุนเทียน เพื่อเชิญตัวนายอู (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.บางขุนเทียน ภายหลังตกเป็น 1 ในผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าชิงทรัพย์นายอนันต์ โดยพบข้อมูลอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย

สำหรับแนวทางการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีพบหลักฐานสำคัญหลายประการ และยังทราบว่า นายอู มักไปนั่งดื่มสุรากับผู้เสียชีวิตที่บ้านพักหลังเกิดเหตุ อีกทั้งยังชอบนำทรัพย์สินของมีค่าไปขายหรือจำนำเอาไว้กับผู้ตาย นอกจากนี้ช่วงก่อนเกิดเหตุนายอู ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน สวมหมวกนิรภัยสีขาว ไปซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงบรรจุใส่แกลลอนจากปั๊มแห่งหนึ่งย่านถนนกาญจนาภิเษก ก่อนมุ่งหน้าเข้าไปหาผู้ตายที่บ้านพักหลังปิดร้านในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งพบกลุ่มควันและแสงเพลิงในช่วงเวลา 16.45 น. ของวันเดียวกัน

นอกจากนี้ภายหลังพบศพนายอนันต์ ทางญาติออกมาเปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพจากทีมแพทย์โดยระบุยืนยันว่า บริเวณลำคอนายอนันต์ คล้ายถูกรัดก่อนเสียชีวิตและเกิดเพลิงไหม้ ขณะที่สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท และพระเลี่ยมทองก็หายไป โดยหลังเกิดเหตุนายอู ได้หายตัวไปจากพื้นที่ประมาณ 4-5 วัน กระทั่งย่ามใจย้อนกลับมายังบ้านพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังที่เกิดเหตุ จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมยัง สน.บางขุนเทียน

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประสานเชิญตัวนายอู เพื่อมาให้ปากคำที่โรงพักเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งจากการตรวจสอบตามร่างกายเบื้องต้นพบมีร่องรอยคล้ายถูกของมีคมขีดข่วนหลายแห่ง โดยชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างการประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อร่วมกันพิสูจน์ทราบหาดีเอ็นเอของผู้ตาย

หากพบผลตรวจยืนยันออกมาตรงกันจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกันนี้ทางชุดสืบสวนได้ร่วมกันลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะแกลลอนน้ำมันว่าอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่ โดยทางตำรวจได้ประสานขอไฟส่องสว่างจากสถานนีดับเพลิงใกล้เคียง พร้อมทั้งนำโปลิศไลน์มาปิดกั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ายังด้านในเนื่องจากเกรงว่าจะทำลายหลักฐาน ซึ่งหากตรวจพบหลักฐานเพิ่มเติมที่เชื่อว่าสอดคล้องในสำนวนคดี จะนำไปรวบรวมกับพยานหลักฐานที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ ก่อนนำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน