เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 11 ต.ค. เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายจามร สมพงษ์ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุ “ทำดี ต้องชื่นชมได้รับแจ้ง จากพลเมืองดีว่านายกฤษ นิยมพงษ์ (โกหมอ) อายุ 53 ปี ขับรถแท็กซี่ลีมูซีน วิ่งสนามบิน นานาชาติภูเก็ตของบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาว สาคู จำกัด ได้พบเงินของสามีภรรยาชาวอาหรับ โดยได้ส่งคืนเงินที่พบอยู่ในกระเป๋าถือ 300,000 บาท ให้กับสองสามีภรรยา ที่ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต เมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมี ร้อยเวร ร่วมเป็นพยานยืนยัน ขอชื่นชมครับ”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายกฤษ ผู้พบกระเป๋าเงินพร้อมกับเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มของคืนวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ผมได้รับสองสามีภรรยาชาวอาหรับจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต ไปส่งที่โรงแรม เบส เวสเทิร์น ต.กะรน เมื่อไปส่งเสร็จผมก็ขับรถกลับไปบ้านในอ.ถลาง แต่ขณะมาถึงที่แยกนามบินสายเก่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตร.ท่องเที่ยว ซึ่งประจำที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตโทรมาหาพร้อมสอบถามเรื่องกระเป๋า ซึ่งระบุว่านักท่องเที่ยวลืมกระเป๋าไว้ภายในรถ ผมจึงจอดรถและสำรวจดูเบาะนั่งด้านหลัง พบว่ามีกระเป๋าสีดำใบเล็กๆ ตกอยู่ที่วางเท้า จึงหยิบมาดูพบภายในมีพาสปอร์ตและเงินจำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะกลับไปรับภรรยาของผมแล้วรีบเดินทางไปที่สภ.กะรน ซึ่งนักท่องเที่ยวเจ้าของกระเป๋าก็รออยู่

เมื่อไปถึงก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะรน และนักท่องเที่ยวเจ้าของกระเป๋าทั้ง 2 คนนั่งรออย่างเคร่งเครียด ผมจึงรีบนำกระเป๋าไปมอบให้ ฝ่ายภรรยาของนักท่องเที่ยวก็ถึงกับดีใจร้องไห้ ก่อนจะตรวจนับดูทรัพย์สินภายใน ทราบภายหลังมีทั้งพาสปอร์ต และเงินดอลลาร์จำนวนมาก คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งเมื่อพบว่าทรัพย์สินอยู่ครบ ภรรยาชาวอาหรับก็ได้มอบเงินจำนวน 2,000 บาทให้กับผมเป็นสินน้ำใจ ซึ่งผมก็รับไว้

“ผมขับรถของบริษัท ภูเก็ต ไม้ขาว สาคู จำกัดมากว่า 6 ปี เคยพบเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้บ่อยครั้ง แต่ไม่ได้มีมูลค่ามากขนาดนี้ ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านมาผมก็นำไปคืนถึงมือเจ้าของ ไม่เคยคิดจะเอาเป็นของตัวเอง เพราะอาชีพบริการ สิ่งที่ได้คือค่าจ้างจากการใช้บริการอยู่แล้ว หากคิดคตต่ออาชีพที่ทำ มันก็เหมือนทำลายความไว้ใจที่นักท่องเที่ยวหรือผู้ใช้บริการมอบให้ ต่อไปก็คงไม่กล้าใช้บริการอีก ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการลืมโทรศัพท์ไอโฟนไว้ในรถอีก ผมก็เพิ่งนำไปคืน ซึ่งนักท่องเที่ยวเจ้าของโทรศัพท์ได้มอบเงินค่ารถ และค่าเสียเวลาให้ เท่ากับผมมีรายได้เพิ่มเป็น 2 ครั้ง ซึ่งก็พอแล้วสำหรับเลี้ยงครอบครัว” นายกฤษ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน