‘สมศักดิ์’ แถลงอายัดทรัพย์ 108 เครือข่ายยานรก มูลค่า 1,600 ล้าน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และพล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)

แถลงข่าวผลงานบูรณาการยึดทรัพย์สินตัดเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด มูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน–ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ทำลายเครือข่ายทั้งประเทศได้ 108 เครือข่าย รวมมูลค่ากว่า 1,599.75 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ และยึดทรัพย์ได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้

ล่าสุดผลการปฏิบัติการเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ดำเนินการกับ 2 เครือข่ายยาเสพติดหลัก กลุ่มแรก เป็นการทำลายเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ 55 เครือข่าย ยึดทรัพย์ 155 รายการ รวมทั้งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด 388 รายการ รวมยึดทรัพย์ 251 ล้านบาท

เครือข่ายที่ 2 ยึดทรัพย์เครือข่ายชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน จ.เชียงใหม่ ที่เป็นเครือญาติและกลุ่มค้ายาเสพติดรายสำคัญ ติดต่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแหล่งผลิตจากพื้นที่ชายแดนมายังภาคกลาง ภาคใต้ และประเภทธุรกรรม โดยเปิดธุรกิจค้าเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึกบังหน้า เพื่อแปรสภาพทรัพย์สินให้กลุ่มเครือญาติ

“หลังจากนี้จะให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดำเนินการคดีฟอกเงินจากเครือข่ายค้ายาเสพติดในปีงบประมาณหน้า และเชื่อว่าตัวเลขการยึดอายัดทรัพย์จะมากกว่านี้ ก่อนจะสิ้นปีงบประมาณนี้คาดว่าในช่วงปลายเดือนต.ค.จะแถลงให้รับทราบอีกครั้ง”นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้านพล.ต.ต.พรชัย เผยว่า ผลการปฏิบัติการสืบสวน สอบสวน ขยายผล ยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดในห้วงเดือนกรกฎาคม 2563 ตามคำสั่ง ศอ.ปส.ที่ 7/2563 สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติด ได้ทั้งสิ้น 56 เครือข่าย หมายจับ 58 หมาย หมายค้น 67 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 191 คน และยึดทรัพย์ทั้งสิ้น 690 รายการ มูลค่า 454,528,494 บาท

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายสว่าง ภมรวิจิตร และเครือญาติ นายสว่าง ภมรวิจิตร อายุ 55 ปี, น.ส.วันเพ็ญ สัตย์ธัญญากุล อายุ 33 ปี 2 สามีภรรยา พร้อมนายเฉลิมพล ภมรวิจิตร อายุ 34 ปี, นายบรรลือ ภมรวิจิตร อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย และนายเผด็จแซ่ว่าง อายุ 45 ปี รวม 5 คน

เนื่องจากสืบทราบว่า นายสว่าง และนางวันเพ็ญ เป็นตัวการสำคัญการสั่งนำเข้ายาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ ดอยสะเก็ด แม่ริม จ.เชียงใหม่ ลงมากระจายสู่ภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และประเทศที่สาม โดยเปิดธุรกิจค้าเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึกบังหน้า เพื่อแปรสภาพทรัพย์สินจากการค้ายาให้กลุ่มเครือญาติ

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับเครือข่ายของนายสว่าง ส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยที่ขยายพื้นที่จากชายแดนภาคเหนือมาค้าขายในหลายจังหวัด ทั้งดอยสะเก็ด แม่ริม จ.เชียงใหม่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี

โดยคดีดังกล่าวเกิดจากการจับกุมนายปัญญา ทรงประสิทธิ์ผล กับพวก 3 คน เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2557 ขณะนั้นได้ยึดของกลางยาบ้ากว่า 6 แสนเม็ด ที่จ.พิษณุโลก ต่อมา 3 มี.ค.2563 จับกุมนายจีรเดช อิสิปรียากับอีก 3 คน พร้อมยาบ้าอีกกว่า 5 ล้านเม็ดที่ อ.ขารุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร

จากการขยายผลพบว่า นายสว่าง ภมรวิจิตร และเครือญาติเป็นผู้สั่งการ จึงขออนุมัติออกหมายจับในข้อหาสมคบ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด พร้อมปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จ.เชียงใหม่ เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์ และกทม.

เจ้าหน้าที่ยึดอายัดทรัพย์สินทั้งบ้านพร้อมที่ดิน 24 หลัง, โฉนดที่ดิน 12 ฉบับ, อาคารพาณิชย์ จำนวน 5 คูหา,รถยนต์ 22 คัน, รถจักรยานยนต์ 27 คัน,บัญชีเงินฝาก 52 บัญชี, บัตรกดเงินสด 5 ใบ รวมทั้งหมด 147 รายการ มูลค่า 202,585,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน