อุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 6 เดือน เปรมชัย กรรณสูตร ไม่รอลงอาญา คดีซุกปืนยาวในบ้าน เจ้าตัวยื่นหลักทรัพย์ 500,000 บาทขอประกันตัว

วันที่ 11 ส.ค. ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หมายเลขดำ อ.1144/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูตร อายุ 66 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ พ.ศ.2490

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดี เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2561 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพัก ซ.ศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. โดยนายเปรมชัยให้การรับสารภาพ

อุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 6 เดือน เปรมชัย กรรณสูตร ไม่รอลงอาญา คดีซุกปืนยาวในบ้าน

อุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 6 เดือน เปรมชัย กรรณสูตร ไม่รอลงอาญา คดีซุกปืนยาวในบ้าน

คดีนี้ศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2562 เห็นว่า เมื่อพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบทให้จำคุก 1 ปี ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลยยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดี ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จึงไม่อาจรอการลงโทษได้

จำเลยได้รับการประกันตัว 2 แสนบาทระหว่างอุทธรณ์คดี โดยยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย

วันนี้นายเปรมชัย จำเลยเดินทางมาศาล ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่โจทก์อุทธรณ์เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน อาวุธปืนมีหลายกระบอก ได้ปืนมาคนละครั้งคราวนั้น ศาลเห็นว่าโจทก์ไม่มีการกล่าวอ้างในคำฟ้องตั้งแต่ในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย

อีกทั้ง โจทก์ไม่บรรยายว่าอาวุธแต่ละกระบอกได้มาอย่างไร และการตรวจยึดอาวุธปืนได้ในคราวเดียวกัน ฟังไม่ได้ว่าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ส่วนที่โจทก์ขออุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานหนักนั้น เห็นว่าศาลชั้นต้นวางโทษไว้เหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลง

ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่าเป็นอาวุธของบิดาที่ถึงแก่กรรมแล้ว ซึ่งลูกจ้างได้ขนย้ายเอามาวางไว้ในบ้านโดยจำเลยไม่ทราบ ศาลเห็นว่าขัดกับคำรับสารภาพ เป็นเรื่องที่ไม่ได้ว่ากันในศาลชั้นต้น จึงไม่รับวินิจฉัย ที่จำเลยขอให้รอการลงโทษนั้น จำเลยมีอาวุธ 5 กระบอก บางส่วนใช้ล่าสัตว์ หากมีการนำไปใช้ก่ออาชญากรรม หรือกระทำความผิดล่าสัตว์ จะยากแก่การติดตามหาผู้กระทำผิด

ถือเป็นเรื่องร้ายแรง และที่จำเลยอุทธรณ์ว่าป่วยร้ายแรงนั้น ในเรือนจำมีโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งมีแพทย์ให้การรักษาอยู่แล้ว หากมีอาการร้ายแรงอาจส่งตัวไปรักษาโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน จำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา

ต่อมานายเปรมชัยได้ยื่นขออนุญาตศาลปล่อยตัวชั่วคราวโดยเพิ่มหลักทรัพย์จากเดิม 200,000 บาท เป็น 500,000 บาทซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน