กล้องวงจรปิด เผยเบาะแส จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม “ไอ้ติ่ง” วัย 20 ปี ลวงเด็กอนุบาลวัย 5 ขวบไปข่มขืน สหวิชาชีพร่วมสอบพาเด็กชี้ตัวหลักฐานมัดแน่นดิ้นไม่หลุด ยอมรับสารภาพคุมตัวทำแผน ค้นประวัติเพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์ แถมยังเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนด้วย

หลังจากที่ช่วงเวลาประมาณเที่ยง วันที่ 10 ส.ค.60 ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย แล้วพาเด็กหญิง น้อย (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาลไปข่มขืนนานนับชั่วโมงแล้วพามาส่งโรงเรียน หลังได้รับแจ้งเหตุ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย สั่งการให้ พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย เร่งติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.วิเศษ ลานอุ่น รองผกก.(สส.), พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพาณิช รองผกก.(ป.), พ.ต.ท.เนรมิตร นนสะเกตุ รองผกก.(สอบสวน), พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมนายอนุสรณ์ ชัยเจริญ หรือ ติ่ง อายุ 20 ปี อยู่หมู่ 9 ชุมชนบ่อหิน ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย ขณะนั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 สีแดง ทะเบียน กธน 914 หนองคาย คันที่ใช้ก่อเหตุ คุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองหนองคาย โดยมีพยานเป็นเด็กหญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยมาชี้ตัวในตอนแรก แต่นายอนุสรณ์ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพนายอนุสรณ์ที่สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำสลับเทา กางเกงลายขวางขาสามส่วน ขณะขับรถจักรยานยนต์พาเด็กหญิงน้อยออกจากโรงเรียนมายืนยัน ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชุดเดียวกับที่กำลังสวมใส่อยู่ สอบสวนอยู่นาน 2 ชั่วโมง นายอนุสรณ์ จำนนด้วยหลักฐานจึงยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนด้วย

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ อัยการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านพักเด็ก มาร่วมสอบปากคำ โดยได้นำ ด.ญ.น้อย มาชี้ตัวผู้ต้องหา ซึ่ง ด.ญ.น้อย ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองคาย ชี้ตัวยืนยันนายอนุสรณ์ได้แม่นยำ หลังจากชี้ตัวเสร็จก็กลับไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อ ถัดมาเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอนุสรณ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามเส้นทางก่อเหตุจากโรงเรียนไปยังบ้านร้างแห่งหนึ่งริมถนนสายเดิมเชื่อมต่อระหว่างบ้านเคียงเมืองกับบ้านคำแค ต.โพธิ์ชัย ซึ่งช่วงที่คุมตัวนายอนุสรณ์มาทำแผนที่โรงเรียนนั้น นักการภารโรงจำได้ว่านายอนุสรณ์เคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนแห่งนี้ด้วย

จากการสอบสวน นายอนุสรณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาโทรศัพท์หาแฟนที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าโรงเรียน แต่โทรไม่ติด จึงขับรถออกไป ไม่นานก็ย้อนมาที่โรงเรียนใหม่แล้วไปนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาในโรงเรียน ขณะนั้นมี ด.ญ. 3 คน วิ่งมาเล่นที่ศาลา ด.ญ.น้อย ถามตนว่า “พี่มีเงินมั้ย 50 บาท พาหนูไปซื้อขนมหน่อย” ตนจึงบอกว่า มี ถ้าอยากกินขนมให้ขึ้นรถเดี๋ยวพาไปซื้อ ด.ญ.น้อย จึงเดินตามมาขึ้นรถ จากนั้นตนจึงพาไปยังบ้านร้างแล้วลงมือข่มขืน พยายามจะสอดใส่อวัยวะเพศประมาณ 10 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จจึงหยุด ซึ่งขณะที่ทำเด็กก็ไม่ได้ร้องและไม่มีเลือดไหล พอตนหยุดก็ได้นำน้ำที่ถือติดตัวมาด้วยล้างอวัยวะเพศของตนเองแล้วพา ด.ญ.น้อย มาส่งที่ถนนข้างโรงเรียน จากนั้นตนก็ขับรถกลับบ้าน ซึ่งไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเหตุใดจึงลงมือก่อเหตุเช่นนั้น

ด้าน ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า ปกติทางโรงเรียนจะปิดประตูเข้าออกตลอดทั้งวัน จนถึงช่วงเย็นเลิกเรียน แต่ในวันนี้บังเอิญว่ามีผู้ใจบุญมาทำบุญเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียน จึงต้องเปิดประตูรับแขก และยืนยันว่าทางโรงเรียนมีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักเรียนเป็นอย่างดี แต่ในครั้งนี้เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ

พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า แนวทางการสืบสวนนั้น หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทั้งของโรงเรียนและในละแวกใกล้เคียง ประกอบกับตรวจสอบประวัติอาชญากรว่ามีใครเคยก่อเหตุลักษณะเช่นนี้หรือผู้ที่เพิ่งพ้นโทษมา ก็พบว่าข้อมูลใกล้เคียงกับนายอนุสรณ์ ซึ่งเพิ่งพ้นโทษคดีลักทรัพย์เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา รูปพรรณสัณฐานใกล้เคียง นอกจากมีคดีลักทรัพย์แล้วยังเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านก็พบนายอนุสรณ์นั่งเล่นอยู่ภายในบ้าน ส่วนพ่อแม่อยู่บ้านหลังใกล้กัน นำไปสู่การจับกุม และในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือ ผู้ดูแลไปเพื่ออนาจาร กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน