จากกรณีนางพัชรี ปั้นทอง พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เพื่อให้เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ลักพาตัวน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล ลูกสาวของนาง พัชรีภายหลังหายสาบสูญไปกว่า 3 ปี ที่ศูนย์บริการประชาชนฝั่งสำนักงานก.พ.เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนางพัชรีระบุว่า ถ้าบุตรสาวยังอยู่จะมีอายุ 28 ปี ได้หายตัวไปขณะเดินทางกลับจากที่ทำงานเมื่อเดือนพ.ค. 2557 โดยมีหลักฐานชี้ว่า ส.อ.พลกฤต วิเศษ เป็นผู้ที่ลักพาตัวบุตรสาวไปเนื่องจากวันเกิดเหตุมีภาพจากกล้องวงจรปิดว่าส.อ.พลกฤตได้ไปจอดรถดักรอแถวที่ทำงานลูกสาว หลังจากวันนั้นก็ขาดการติดต่อกับลูกสาว และส.อ.พลกฤตก็หายตัวไปจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สน.ท่าเรือ จ.พระนครศรี อยุธยา จนเวลาผ่านมากว่า 3 ปีแล้วยังไม่รู้ชะตากรรมลูกสาวว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ สืบทราบว่าส.อ.พลกฤตได้หลบหนีมาอยู่กับแฟนใหม่ในพื้นที่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา จึงประสานตำรวจ สภ.หนองบุญมาก และทหารจากกรมทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 เข้าปิดล้อมพื้นที่หมู่ 1 ต.หนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เพื่อไล่ล่าจับกุมส.อ.พลกฤต แต่ส.อ.พลกฤตไหวตัวทันหลบหนีเข้าไปในป่าไร่มันสำปะหลังตั้งแต่คืนวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา อ่านข่าว ฆ่าเผา”น้องพลอย” อดีต”สอ.” รับสิ้น-เร่งพิสูจน์ศพหมกแก่งคอย สาวรง.กรุงเก่า หายไปนาน3ปี แฉหนุ่มคนร้าย ผ่าตัดหน้าใหม่

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 14 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจพานางพัชรี พร้อมด้วยนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ทนายความ ไปดูจุดฆ่าอำพรางน.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล หรือ ‘น้องพลอย’ โดยนางพัชรีมีสีหน้าที่โศกเศร้าและร้องไห้ นายรณณรงค์ต้องคอยปลอบใจตลอดเวลา

นางพัชรี กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ตนนอนไม่หลับ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้แล้วรู้ข่าวว่าเจอโครงกระดูกก็คิดว่าใช่ลูกเราหรือไม่ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็คิดว่าใช่ลูกเราหรือไม่ ตั้งแต่วันแรกแล้ว โทรศัพท์ตนไม่เคยปิดเลย ตนทักไลน์หาลูกทุกวัน บอกทุกขั้นตอนในการตามหาลูก คิดว่าปาฏิหาริย์ว่าสักวันน้องพลอยต้องมาตอบไลน์

“เราสนิทกันมาก จะบอกราตรีสวัสดิ์ทุกคืน มือถือที่น้องติดตัวไปเป็นของขวัญที่ซื้อให้ตอนรับปริญญา คิดว่าส.อ.พลกฤตทำไมต้องหนี ทำไมต้องทำศัลยกรรม ดิฉันรู้ว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงจดรายละเอียดทุกอย่างไว้ทั้งหมดว่าไปร้องเรียนที่ไหน วันที่ 9 เดือนมิถุนายน 57 ไปร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม แล้ววันที่ 29 มิ.ย. ส่งจดหมายไปคสช.ดิฉันก็ไป ส่งเอกสารไปศูนย์ดำรงธรรม ทำทุกทางที่จะช่วยเหลือติดตามลูก วันไหนที่แม่ไม่ได้ไปแม่ก็จะรอให้น้องพลอยกลับบ้าน” นางพัชรี กล่าว

นางพัชรี กล่าวต่อว่า ตนมารู้ว่ารถที่มารับน้องพลอยไป ต่อมาส.อ.พลกฤตนำไปฝากเต็นท์รถที่สระบุรีขาย ทุกเรื่องตนต้องสืบหาข้อเท็จจริงเอง ต่อมาส.อ.พลกฤตโทรมาหาตนมาถามว่าได้ข่าวว่าน้องพลอยหายตัวไป ตนบอกว่าใช่ ตนถามกลับไปว่าเอาตัวน้องไปหรือไม่ เขาตอบว่าผมมีแฟนแล้ว และแม่จะไปแจ้งตำรวจให้ตามหา หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ ส.อ.พลกฤตก็โทรมาหาตนอีก ซึ่งขณะนั้นตนรู้แล้วว่า ผู้ชายคนนี้พาตัวน้องพลอยไป ตนจึงนำข้อมูลที่ได้มาแจ้งตำรวจ และนำหลักฐานไปให้พ่อของคนร้ายดู พ่อเขาบอกว่าลูกตนมีแฟนแล้ว และพาไปดูที่ห้อง ซึ่งตนบอกว่าน้องพลอยไม่ได้หายตัวไปที่นี่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน