จากกรณีพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว และ สน.โคกคราม จับกุม พล.ต.จรูญ อำภา สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พ.ต.ท.ณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. จ.อ.เสาวเดช ศักดิ์กิตตินันท์ จ.อ.อภิวัฒน์ ศรีนะพรม จ.อ.เทพพิทักษ์ รัดทะนี และ จ.อ.ทรงวุฒิ เที่ยงธรรม ทั้ง 4 นาย สังกัดกรมสารวัตรทหารเรือ นายโอภาส ศรียา และนายโก๊ะ เต๊ก ชวน ชาวสิงคโปร์ ร่วมกันก่อเหตุอุ้มนายสุรชัย แซ่ย่าง นักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน ย่านซอยนวลจันทร์ และหุ้นส่วนสายการบินแห่งหนึ่ง ไปรีดเงินค่าคุ้มครอง 20 ล้าน ก่อนต่อรองเหลือ 2 ล้าน นายสุรชัยถูกปล่อยตัวหลังโอนเงินให้ เข้าร้องเรียนต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กระทั่งมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน ยังขาดอีก 2 คน คือ ส.อ.อุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ ทหารนอกราชการ อดีตสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย และนายฐิติกร ชื่นอุรา ลูกน้อง ที่หลบหนีลงภาคใต้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 ส.ค. รายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัว ส.อ.อุทิศ ก่อแก้ว หรือจ่ายักษ์ อายุ 50 ปี ทหารนอกราชการ สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย และนายฐิติกร ชื่นอุรา อายุ 38 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ลูกน้องคนสนิท ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อมูลว่าได้หลบหนีไปกบดานอยู่ทางภาคใต้ ล่าสุดส.อ.อุทิศ และนายฐิติกร ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ประสานเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.โคกครามแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ยังมีรายงานอีกว่าทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงสอบปากคำนายสุรชัยเพิ่มเติม จากนั้นจะขออำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับบุคคลตามภาพถ่ายเพิ่มอีก 1 ราย เลขที่ 1828/2560 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2560 ข้อหากรรโชกทรัพย์ คือชายแต่งกายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์และสวมหมวกแก๊ปสีเขียว ปิดบังใบหน้า ซึ่งบุคคลที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ขณะทั้งหมดลงมือก่อเหตุ ซึ่งก็จะรวมผู้ต้องหาในคดีนี้เป็น 11 คน ซึ่งทางผู้เสียหายระบุว่าบุคคลดังกล่าวทำหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ต้องหารายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะออกหมายจับได้ใน 1-2 วันนี้

ในส่วนของการติดตามคนร้ายนั้นทางตำรวจ 191 จะเป็นกำลังหลัก ซึ่งงานสืบสวนสน.โคกครามก็ไม่ได้ทิ้งไปเลยเสียทีเดียว ยังคงลงพื้นที่ออกหาข่าวเพื่อนำมารวบรวมกันกับที่ตำรวจ 191 เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลืออยู่มาดำเนินคดี งานหลักของสน.โคกครามตอนนี้คือการทำสำนวน รวบรวมพยานหลักฐานที่ได้ทั้งหมด มีทั้งพนักงานสอบสวนของสน.โคกคราม และมีพนักงานสอบสวนของกองปรามปราม มาช่วยอีกแรง ซึ่งน่าจะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถทำสำนวนได้เร็วขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน