วันที่ 12 ต.ค. นายจงจิต ปินศิริ สาธารณสุขอำเภอนาน้อย จ.น่าน พร้อมด้วยพ.ต.ท.สมศักดิ์ สารแก้ว สว.สส.สภ.นาน้อย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ประกอบพิธีกรรมฤาษีนั่งไฟ ภายในบ้านนางมณีรัตน์ กานันไชย อยู่บ้านเลขที่ 17/1 ม.8 ต.บัวใหญ่ อ.นาน้อย หลังมีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กและไลน์ จึงอยากให้ตรวจสอบกรณีจัดพิธีกรรมทำยาสมุนไพร โดยมีชายแต่งชุดฤาษีนั่งบนกระทะใบใหญ่ที่จุดไฟต้มน้ำมันพืชและใบสมุนไพร พร้อมสวดคาถาประกอบพิธีกรรมทำยานวดสมุนไพรและไข่ต้มรักษาโรค จำหน่ายในราคาขวดละ 100 บาท และไข่ต้ม 3 ฟอง 100 บาท หากใครต้องการเข้าทำการรักษาจะต้องเสียค่าไหว้ครู 99 บาท ว่าพิธีกรรมดังกล่าวเหมาะสมและสมุนไพรนั้นรักษาโรคได้จริงตามกล่าวอ้างหรือไม่
นางมณีรัตน์ เจ้าของบ้านที่จัดพิธี เปิดเผยว่า แต่ก่อนเคยเป็นตำหนักร่างทรงหลวงปู่ฤาษีมาก่อน แต่ปัจจุบันร่างทรงได้กลับไปบ้านเกิดตัวเอง จากนั้นตำหนักที่มีอยู่แล้ว จึงทำเป็นสถานที่นวดแผนโบราณแทน ตามที่ได้ไปอบรมการนวดแผนโบราณมา เพื่อนำมาเป็นอาชีพที่สุจริตหาเลี้ยงครอบครัว แต่หิ้งพระรูปหลวงปูฤาษีก็ยังเก็บไว้ตามปกติ เพราะตัวเองนับถือกราบไหว้สักการะอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่ประกอบพิธีกรรมทำยาสมุนไพรได้ทำเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีร่างหลวงปู่ฤาษีที่รู้จักกันมาก่อนหน้านี้และได้มาเที่ยวหาที่บ้านเป็นประจำ จึงมาช่วยประกอบพิธีให้ โดยไม่มีเจตนาหลอกชาวบ้านและเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน เพราะไม่บังคับหรือข่มขู่ ชาวบ้านให้ซื้อน้ำยาสมุนไพรแล้วแต่ศรัทธาและความเชื่อของแต่ละคน ที่ทำไปอยากช่วยรักษาชาวบ้านตามความเชื่อโบราณ โดยใช้น้ำสมุนไพรเชื่อว่าจะสามารถช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายของชาวบ้าน ไม่มีเจตนาหลอกลวง หรือเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านที่มาร่วมพิธี
นางบุญตุ้ม ยะเสน อายุ 54 ปี ชาวบ้านที่เข้าร่วมพิธีกรรม เล่าว่า โดยส่วนตัวมีความเชื่อเรื่องน้ำสมุนไพรมาก่อน เพราะสมัยปู่ย่าตายายได้เคยนำน้ำสมุนไพรมาช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างราย โดยใช้วิธีสกัดหรือนำมาต้มกิน เพื่อรักษาโรคต่างๆ ตามความรู้ของคนสมัยก่อน แต่พิธีที่ฤาษีนั่งไฟได้ทำนั้นเป็นเรื่องที่แปลกและไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งการทำน้ำสมุนไพรมีส่วนประกอบน้ำมันปาล์มและใส่สมุนไพรพื้นบ้าน เช่น ขมิ้น ตระไคร้ ข่า น้ำสมุนไพรที่ได้มาจะเป็นสีเหลือง กลิ่นจะเป็นกลิ่นขมิ้น ไม่เหม็น จึงอยากลองดูว่าจะสามารถรักษาได้ไม่ จึงซื้อมา 1 ขวด มาลองทาและนวดบริเวณหัวเข่า ที่ปวดมานาน เพราะใช้ยาอะไรรักษาก็ไม่หาย กำลังใช้มา 2 วัน ไม่มีอาการแพ้ยา มันเหมือนน้ำมันสมุนไพรทั่วไป ที่วางขายตามร้านขายยา
ด้านนายจงจิต ปินศิริ สาธารณสุขอำเภอนาน้อย หลังทำการตรวจสอบกล่าวว่า พบมีการนวดแผนไทยและลงทรงฤาษีจริง แต่ไม่มีการรักษาผู้ป่วยโดยตรง จึงไม่ผิดพ.ร.บ.สาธารณสุข และน้ำมันสมุนไพรที่ต้มออกมาไม่ได้ใช้รับประทาน แต่ใช้ทานวดตามบริเวณที่ปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ เช่นเดียวกับน้ำมันงาและน้ำมันสมุนไพรอื่นๆ ยังไม่ผิดพ.ร.บ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 เพราะไม่ได้อวดอ้างสรรพคุณว่าสามารถช่วยรักษาโรคต่างๆให้หายขาด แต่ได้ทำการตักเตือน ส่วนน้ำสมุนไพรทางสาธารณสุขจะนำตัวอย่างไปตรวจสอบอีกครั้งว่ามีสารเคมีที่ทำอันตรายหรือไม่ ส่วนพิธีกรรมฤาษีนั่งกระทะตั้งไฟเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล อีกทั้งก็ไม่พบว่ามีการบังคับซื้อ จึงไม่เข้าข่ายกระทำความผิดใดๆ
