ดีเอสไอ บุกค้น 5จุด 4 จังหวัด อายัดทรัพย์ เครือข่ายชบา ฟอกเงินธุรกิจสีเทา ผับ-พนันออนไลน์ มูลค่ากว่า 500 ล้าน เจาะข้อมูลพบเงินหมุนเวียน 1,000 ล้านบาท/ปี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงความคืบหน้าการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มของ น.ส.ชบา (นามสมมติ) ซึ่งเป็นกลุ่มค้ายาเสพติด

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พบว่ามีการเปิดบัญชีเงินฝากรับโอนเงิน 65 บัญชี กระจายไปยังบัญชีอื่นๆ อีกจำนวนมาก เส้นทางการเงินมีทั้งโอนเข้าบัญชีในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งพบมีชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง จากการขยายผลตรวจสอบพบว่า น.ส.ชบา เป็นเจ้าของกลุ่มธุรกิจสีเทา เช่น สถานบันเทิง ผับ และกลุ่มพนันออนไลน์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไออยู่ระหว่างขยายผลสอบเพิ่มเติม และยังไม่พบมีนายทุนใหญ่เข้ามาหนุนหลัง

ดีเอสไอ บุกค้น 5จุด 4จังหวัด อายัดทรัพย์ เครือข่ายชบา ฟอกเงินธุรกิจสีเทา

ดีเอสไอ บุกค้น 5จุด 4จังหวัด อายัดทรัพย์ เครือข่ายชบา ฟอกเงินธุรกิจสีเทา

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า การตรวจสอบเครือข่ายของน.ส.ชบานั้น ดีเอสไอใช้เวลาติดตามกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมานานกว่า 3 เดือน นำเทคโนโลยีสืบค้นธุรกรรมทางการเงินมาใช้เพียง 2 เดือน ก็สามารถเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายตัวการสำคัญได้ ทั้งยังสามารถแยกกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดออกไปเป็นวงกว้าง

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทางธนาคาร ข้อมูลการชำระภาษีของกรมสรรพากร พบกลุ่มคนเหล่านี้มีเงินเข้าบัญชีธนาคารเป็นหลัก 100-1,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่ไม่มีการชำระภาษี เมื่อตามเส้นทางของบุคคลเหล่านี้พบส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อรวบรวมข้อมูลจนมั่นใจ ว่ากลุ่มบุคคลนี้กระทำการเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ดีเอสไอจึงรับเป็นคดีพิเศษ

เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านพักของเครือข่าย

เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นภายในบ้านพักของเครือข่าย

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ดีเอสไอเข้าตรวจค้นเครือข่าของน.ส.ชบา พร้อมกัน 5 จุด คือ จ.ชลบุรี, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร 2 จุด คือ พื้นที่เขตบางเขน และ เขตตลิ่งชัน จุดที่สามารถอายัดทรัพย์สินได้มากที่สุด คือ เขตตลิ่งชัน ได้ทองคำแท่งน้ำหนักประมาณ 1,000 บาท, พระเครื่องและสร้อยทองคำ รวม 35 รายการ, เครื่องประดับอื่นอีก 10 รายการ และยังพบธนบัตรไทยและธนบัตรต่างชาติอีกประมาณ 1.2 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังพบบัญชีธนาคาร 65 บัญชี มูลค่า 50 ล้านบาท, บ้านพร้อมที่ดิน 85 รายการ มูลค่า 340 ล้านบาท, รถยนต์ 97 คัน มูลค่ากว่า 83 ล้านบาท, ทองคำหนัก 1,064 บาท มูลค่ากว่า 31 ล้านบาท, พระกรอบทอง พร้อมสร้อยทอง 30 รายการ มูลค่ากว่า 2 ล้าน, กระเป๋าแบรนด์เนม 11 ใบ มูลค่ากว่า 8 แสนบาท, เครื่องประดับ มูลค่า 5 แสนบาท

ทองคำแท่งของกลางที่สามารถตรวจยึดได้

ทองคำแท่งของกลางที่สามารถตรวจยึดได้

รวมทั้งเงินสดสกุลต่างๆ อาทิ เงินดอลลาร์ เงินกีบลาว เงินด่องเวียดนาม รวม 1.2 ล้านบาท รวมมูลค่าการยึดทรัพย์ประมาณ 500 ล้านบาท และยังยึดอายัดไม้แปรรูปใน จ.สมุทรสาคร ได้อีกจำนวนหนึ่ง จึงประสานกรมป่าไม้ตรวจสอบว่าไม้เป็นชนิดใด มีปริมาณเท่าใด หากพบเป็นไม้ไม่ถูกต้อง ดีเอสไอจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด

รายงานข่าวจากชุดจับกุมของดีเอสไอ เผยว่า ไม้ที่ยึดได้จาก จ.สมุทรสาคร เป็นไม้พะยูงนำเข้าจากแอฟริกา ไม่มีหลักฐานสำแดงจากรมศุลกากร คาดว่าลักลอบนำเข้ามาทางเรือด้านแม่น้ำโขง อาจเป็นการแลกเปลี่ยนสิ่งของผิดกฎหมาย ไม้ดังกล่าวกรมป่าไม้ได้ตีมูลค่าไว้ 20 ล้านบาท

ส่วนเจ้าของผู้มีชื่อครอบครองไม้ เป็นผู้ทำธุรกิจอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งค้าสัตว์ป่า และปัจจุบันได้เสียชีวิตจากไข้มาลาเรีย จึงต้องขยายผลสอบเพิ่มเติมว่านอกจากบุคคลรายนี้แล้ว ยังมีผู้อื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน