กรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้ไม้เบสบอล โต๊ะ เก้าอี้ และหมวกกันน็อก เข้ารุมทำร้ายนายศุภธนกฤต สืบจะบก อายุ 40 ปี ชาวจ.ปทุมธานี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่หมู่บ้านเอื้ออาทร ติวานนท์ (ปู่โพธิ์) หมู่ 5 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อเวลาประมาณ 20.50 น.ของวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพกลุ่มคนร้ายไว้ได้ ทั้งนี้ที่ผ่านมานายศุภธนกฤตเคยเป็นกรรมการหมู่บ้านและมีเรื่องทะเลาะกับคนในหมู่บ้าน จนเคยไปก่อเหตุชกต่อยกันมาแล้ว เนื่องจากมีการปัญหาเกี่ยวกับเรื่องกล้องวงจรปิดและค่าส่วนกลาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว คู่อริยกพวกรุมกระทืบคาร้าน ใช้สารพัดอาวุธกระหน่ำตี เผยปัญหาเก็บค่าส่วนกลางหมู่บ้าน
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภธนกฤต สืบจะบก อายุ 40 ปี ที่ถูกรุมตีอย่างป่าเถื่อนนั้น เบื้องต้นยังอาการสาหัสนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลปทุมธานี โดยภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพเอาไว้ได้ ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน ใช้ไม้เบสบอล เก้าอี้ และหมวกกันน็อค เข้ารุมทำร้าย นายศุภธนกฤต สืบจะบก ขณะนั่งทานอาหารกับเพื่อนหน้าร้านป้าแต้ว
จากการสอบถามพ.ต.อ.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต กล่าวว่า เบื้องต้นทราบชื่อคนร้ายทั้ง 4 รายแล้ว โดยนำภาพผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไปให้คนภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรติวานนท์ (ปู่โพธิ์) ตรวจสอบพบว่าไม่ได้เป็นคนในหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 ราย ติดต่อขอมอบตัวแล้ว แต่ยังไม่กำหนดวันและเวลา ซึ่งต้องขอสงวนรายชื่อและภาพของคนร้ายทั้ง 4 รายไว้ก่อน เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสและออกหมายจับแล้ว
วันเดียวกัน ที่สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี เรียกสอบนายวินัย ชาญเกษม น้องชายผู้บาดเจ็บ และนางปราณี ชาญเกษม อายุ 66 ปี มารดา พร้อมด้วยญาติผู้เสียหาย เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากยังไม่ทราบตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งสอบสวนเพื่อหาข้อมูลและสืบสวนหาหลักฐานต่างๆ ในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเกิดจากการบาดหมางกันเรื่องใด เพื่อสืบสวนหาตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายวินัย ชาญเกษม น้องชายผู้บาดเจ็บ กล่าวถึงอาการบาดเจ็บของพี่ชายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายว่า ขณะนี้พี่ชายได้รับการรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลปทุมธานี เข้ารับการผ่าตัดสมองเมื่อคืนวันที่ 19 ส.ค. เมื่อเวลา 02.00 น.แล้ว เนื่องจากมีเลือดออกในสมองจำนวนมาก แพทย์จึงต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะออกเพื่อระบายเลือด และดูอาการตามลำดับขั้น ซึ่งอาการยังน่าเป็นห่วงและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนในเรื่องของคดีความคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่สืบสวนคดีต่อไป และขอให้นำตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
