จากกรณี นางกรรณิกา ไชยปทุม เป็นผู้เสียหาย สั่งจองรถจากเต็นท์รถมือสอง ย่านถนนกาญจนาภิเษก แต่กลับได้รถมาอีกคัน เมื่อเรียกเงินมัดจำจำนวน 2,000 บาทคืน เจ้าของเต็นท์กลับไม่คืนให้ พร้อมทั้งยังขู่ว่าหากมีปืน ก็จะเอามายิง โดยผู้เสียหายได้ถ่ายคลิปขณะที่กำลังทะเลาะกับเจ้าของเต็นท์รถไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งภายหลังที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ก็มีผู้เสียหายอีกหลายรายออกมาแสดงตัวว่าถูกหลอกเช่นเดียวกัน

ขณะที่ น.ส.เป (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่า รถตนซื้อรถมาช่วงเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ในราคา 550,000 บาท เมื่อตนตรวจสอบรถที่เต็นท์สภาพก็ปกติ แต่เมื่อขับรถออกมาได้ไม่นานปรากฏว่าแอร์ไม่เย็น ตนจึงนำรถกลับไปที่เต็นท์เพื่อแจ้งปัญหาและส่งซ่อม เพราะทางเต็นท์ระบุว่าหากรถมีปัญหารับประกันเป็นเวลา 6 เดือน ตนจึงทิ้งรถไว้ 10 วัน เมื่อไปรับรถทางเต็นท์แจ้งว่ามีค่าใช้จ่าย 3,000 บาท จึงถามไปว่าเป็นค่าอะไร ทางเต็นท์บอกเป็นค่าบริการช่าง ตนก็ยอมจ่ายเงินไป แต่ปรากฏว่าแอร์ก็ยังไม่เย็น และตนก็ต้องการใช้รถจึงตัดสินใจนำรถไปซ่อมเอง ซึ่งเสียค่าซ่อมอีก 21,000 บาท นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ตนมาของรถตอนแรก ทางเต็นท์ก็ตกลงวางเงินดาวน์กับตนที่ 20,000 บาท แต่เมื่อถึงวันทำสัญญา กลับระบุว่าตนต้องชำระเงิน 30,000 บาท ก่อนระบุว่ามีค่าภาษี พรบ.ด้วย ตนก็ต้องยอมจ่ายไป แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ พรบ.ภาษี ตนก็ยังไม่ได้รับเอกสารการต่อ ส่วนตัวอยากให้เรื่องนี้ถูกตีแผ่ เพราะไม่อยากให้ไปก่อเหตุกับใครอีก และที่สำคัญต้องการให้เรื่องนี้ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกนับ 10 ราย ทยอยเดินทางเข้าแจ้งความ ที่ สน.หลักสอง

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 22 ส.ค. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ., พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท., พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.กองบังคับการสายตรวจ พร้อมด้วยตำรวจ สน.หลักสอง, เจ้าหน้าที่หน้ากองพิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าขนส่งทางบก, เจ้าหน้าที่ สคบ. ได้นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เลขที่ ค174/60 ลงวันที่ 22 ส.ค.60 เข้าตรวจค้นที่เต็นท์รถดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายในศูนย์รวมรถยนต์พีจี ถนนกาญจนภิเษก แขวงและเขตบางแค กทม. โดยเต็นท์รถดังกล่าว เป็นเต็มท์รถที่มีปัญหา เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานในการสอบสวนเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงประชาชน พบว่ามีรถอยู่ทั้งหมด 83 คัน

เจ้าหน้าที่พบ น.ส.ทัศนีย์ เช้าเจริญประกิจ อายุ 38 ปี ได้แสดงตัวเป็นเจ้าของเต็นท์รถดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเกี่ยวกับสมุดคู่มือจดทะเบียน ตรวจสอบเลขตัวถังของรถแต่ละคันที่อยู่ภายในเต็นท์ ดูการเสียภาษี ดูการทำสัญญาการซื้อขายกับลูกค้า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่ารถบางคันมีปัญหา เช่น ตัวป้ายทะเบียนป้าย วงกลมไม่ตรงกัน

น.ส.ทัศนีย์ เปิดเผยว่า ตนเปิดบริการมาแล้ว 8 ปี และยอมรับว่าเป็นเจ้าของเต็นท์รถ ซึ่งเป็นเต็นท์ที่เป็นตกเป็นข่าวในโลกโซเซียล เนื่องจากมีผู้มาซื้อรถยนต์ของตนเป็นรถยนต์เซฟโรเล๊ต แคปติวา โดยทำสัญญาซื้อขายกัน จากนั้นเมื่อถึงวันรับรถผู้ซื้อได้รับรถเป็นเครื่องเบนซิน จึงเกิดความไม่พอใจ หาว่าผิดสัญญา ทำให้มีปากเสียงกันขึ้นโดยผู้ซื้อด่าทอตนว่าขี้โกง ซึ่งการขายรถยนต์ดีเซลจะสูงกว่าและไม่สามารถทำได้ จึงทำให้ลูกค้าไม่พอใจและเป็นข่าวขึ้นมา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะรวบรวมเอกสารและรถที่มีปัญหาทั้งหมดให้ทางพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.แถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน