ทำเนียบ จัดกำลังเข้ม! ย้ำไม่ใช้ความรุนแรง ติดกล้องหน้าอกบันทึกหลักฐาน

ทำเนียบ ตรึงกำลังเข้ม ย้ำ บิ๊กตู่ กำชับใช้ความอดทน ห้ามใช้ความรุนแรงกับประชาชน-เลี่ยงปะทะ อดกลั้นต่อการถูกยั่วยุต้องไม่ตอบสนองเด็ดขาด

วันที่ 19 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย ก่อนการทำกิจกรรมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม แม้จะมีกระแสว่าแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะไม่บุกมาทำเนียบรัฐบาลแล้วก็ตาม แต่ในส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญและติดกับบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต (พระบรมรูปทรงม้า) ได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบทุกจุดโดยรอบ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

โดยเฉพาะที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่สะพานมัฆวาน มีเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ประจำเวรยามวางกำลังไว้ทุกจุด ปิดทุกประตูทางเข้า-ออกยรอบทำเนียบ ยกเว้นประตูทางเข้าสะพานอรทัย และประตู 8 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ที่เปิดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไป โดยทุกคนต้องติดบัตรประจำตัวที่ออกโดยทำเนียบรัฐบาลอย่างชัดเจน รวมทั้งสื่อมวลชนที่ไม่มีบัตรประจำทำเนียบ ก็ไม่สามารถเข้ามาได้

ในส่วนกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อม มีการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาลสังกัด กก.4 บก.ส.3 และกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 (บก.น.9) เข้ามาเตรียมความพร้อม โดยเมื่อเวลา 09.00 น. ได้เรียกรวมพลบริเวณลานที่จอดรถหน้าอาคาร 20 ติดกับกองร้อยสันติบาล 3

ทำเนียบ ตรึงกำลังเข้ม ย้ำ บิ๊กตู่ กำชับใช้ความอดทน ห้ามใช้ความรุนแรงกับประชาชน

พล.ต.ต.สุรพล อยู่นุช ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประสานงานทำเนียบรัฐบาล กล่าวก่อนมอบนโยบายกำลังพล ว่า วันนี้ในส่วนของทำเนียบรัฐบาลมีกำลังเจ้าหน้าที่ 1 กองร้อย รวมทั้งมีกำลังตำรวจประจำทำเนียบอยู่แล้ว ในส่วนการดูแลผู้ชุมนุมนั้น นายกรัฐมนตรีมีนโยบายชัดเจนว่าห้ามความรุนแรง และพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ ให้ใช้การเจรจาพูดคุยเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินเบื้องต้นเชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรงถึงขั้นต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ต้องประเมินสถานการณ์ดูหน้างานอีกครั้ง อย่างไรก็ตามได้ประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) อย่างใกล้ชิดมาตลอดอยู่แล้วถึงแผนต่างๆ จึงเชื่อว่าไม่มีปัญหา

“ทุกคนเป็นเหมือนลูกๆ หลานๆ ที่ใช้สิทธิ แต่สิ่งที่ห่วงอย่างเดียวคือทุกคนเป็นเหมือนลูกหลาน และการที่เยาวชนรวมตัวกันก็เป็นห่วงทั้งในเรื่องโควิด อากาศ โดยเฉพาะขณะนี้ที่ฝนตก จึงต้องระวังสุขภาพและเตรียมป้องกันกันด้วย เพราะอาจไม่สบายได้” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว

เมื่อถามว่าเบื้องต้นประเมินว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่รุนแรง แต่ก็ต้องดูหลายอย่างประกอบกัน เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลความเรียบร้อยทั้งในทำเนียบและภายนอก รวมถึงดูแลเรื่องการจราจรต่างๆ ที่ได้ประชาสัมพันธ์เส้นทางจราจรให้รับทราบและหลีกเลี่ยง ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบต่อประชาชนที่เดินทางไปมา

พล.ต.ต.สุรพล อยู่นุช ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานงานทำเนียบรัฐบาล

เมื่อถามว่าจากการข่าวนอกจากกลุ่มนักศึกษายังจะมีกลุ่มอื่นหรือมีมือที่สามหรือไม่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ด้านการข่าวรู้อยู่แล้ว รู้ตัวอะไรอยู่บ้าง

ทั้งนี้ ระหว่างการรวมพล ผู้บังคับหน่วยมอบนโยบายกำลังพลว่า การปฏิบัติหน้าที่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาที่ย้ำเสมอว่าเราจะไม่ทำร้ายประชาชน ภารกิจมีเพียงหน้าที่รักษาความสงบภายในพื้นที่ ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปปะทะกับประชาชน

ดังนั้น การกระทำใดก็ตามหากถูกยั่วยุ อย่าตอบสนอง ซึ่งกล้องที่หน้าอกจะบันทึกไว้ทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ใช้เป็นหลักฐานดำเนินการในภายหลัง และเป็นหลักฐานในการติดตาม

เราจะไม่ทำร้ายประชาชน ขอให้พวกเราทุกคนอดทน อดกลั้นในการปฏิบัติ ทุกภารกิจไม่ว่าผู้บังคับบัญชาจะมอบหมายภารกิจใดก็ตาม ต้องไม่ทำร้ายประชาชน และดำเนินการด้วยความสุภาพ ย้ำว่าหากถูกยั่วยุ เราต้องไม่ตอบสนอง เราจะไม่ตกเป็นเครื่องมือของใครทั้งสิ้น จะไม่ตกเป็นเครื่องมือในการกระทำใดๆ หลักฐานจะถูกบันทึกในกล้องที่ซึ่งติดอยู่บนหน้าอกของเรา และหลังจากนี้เมื่อทำภารกิจ ภาพจะถูกบันทึกจากกล้องที่หน้าอกของเรา

ทั้งนี้ หากใครยังไม่เปิดกลัวแบตหมดไม่ว่ากัน แต่หากเกิดการปะทะขึ้นมา เพราะนั่นคือหลักฐานใช้ยืนยันการอยู่ภายใต้ความเรียบร้อย ความไม่รุนแรง ขอย้ำในเรื่องนี้ ไม่ใช้วาจาจาบจ้วง ไม่ว่าจะโดนยั่วยุ ไม่ใช้การกระทำที่รุนแรงใดทั้งสิ้น สิ่งที่จะตอบโต้กลับไปหากมีการใช้ความรุนแรง จะไม่ใช่มือไม่ใช่หมัดของพวกเรา แต่จะเป็นกล้องที่บันทึกภาพอยู่บนหน้าอก