ตร.รู้เบาะแสแล้วคนร้ายปล้นทอง 200 บาท ค่ากว่า 6.5 ล้าน ชี้วางแผนมาอย่างดี เชี่ยวชาญอำพรางตัว ไม่ทิ้งรอยนิ้วมือ เผยเจ้าของรถจยย.ของคนร้ายเป็นผู้หญิง

กรณีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนยาวสีเทาขาว สะพายกระเป๋าข้างสีดำ สวมหมวกกันน็อกครึ่งหัวสีแดง สวมหน้ากากอนามัย และมีลักษณะเหมือนคนใส่วิกผมสีน้ำตาล บุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัส สาขาวังหิน แขวง-เขตลาดพร้าว กวาดทองไปประมาณ 221 บาท มูลค่า 6.5 ล้านบาท ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ล่าสุดพบรถจยย.ที่คาดว่าเป็นของคนร้ายจอดอยู่ภายในซอยเสนานิคม 1 แขวงและเขตลาดพร้าว ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. พนักงานสอบสวนสอบปากคำพนักงานร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ พบว่าคนร้ายได้ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 221 บาท 50 สตางค์ มูลค่าประมาณ 6.5 ล้านบาท ซึ่งร้านทองทำประกันไว้ ส่วนแนวทางการสืบสวนขณะนี้

อ่านข่าว โจรผมยาวควงปืน ปล้นร้านทอง ห้างย่านวังหิน กวาด100กว่าบาท มูลค่า4ล้าน

จากการตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย พบว่าหลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นทีทีเอ็กซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีดำ วิ่งไปตามสะพานข้ามคลองลาดพร้าว ซอยรัชดาภิเษก 36 (ซอยเสือใหญ่อุทิศ) ซึ่งมีซอยแยกย่อยจำนวนมาก สามารถทะลุไปได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรัชดาภิเษก เสนานิคม และถนนลาดพร้าว








Advertisement

โดยคนร้ายเลือกหนีไปทางถนนเลียบคลองลาดพร้าว ก่อนตำรวจจะไปพบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยเสนานิคม 1 ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 2-3 กิโลเมตร

รถจยย.ที่คาดว่าเป็นของคนร้าย

จากนั้นคนร้ายเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดวิกผม และรองเท้า ก่อนจะเรียกแท็กซี่ไปที่ห้างสรรพสินค้าย่าน ลาดพร้าว ซึ่งตำรวจสน.โชคชัย นำหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจยึด ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรอยนิ้วมือแฝง นอกจากนี้จากการตรวจสอบทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ทราบชื่อผู้ครอบครองรถเป็นผู้หญิง ซึ่งจะขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายหรือไม่ หรือเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมา

รายงานข่าวต่อว่า คนร้ายรายนี้เชี่ยวชาญในการพรางตัว และเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี โดยพ่นสีทับเลขตัวถังรถจักรยานยนต์ และยังป้องกันไม่ให้มีร่องรอยลายนิ้วมือบนตัวรถ นอกจากนี้ยังพบว่าจุดที่คนร้ายนำรถจักรยานยนต์มาจอดก่อนเข้าไปก่อเหตุ ไม่ได้เป็นที่จอดรถ เชื่อว่าคนร้ายจะฉวยโอกาส นำรถมาจอดเพื่อให้ง่ายต่อการหลบหนี

ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) เดินทางมาที่ สน.โชคชัย พร้อมกล่าวว่า ตอนนี้พอจะทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว คาดว่าเร็วๆ นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้ กำลังหาผู้ครอบครอง ซึ่งก็เก็บรายละเอียดทางวิทยาศาสตร์ไว้แล้ว

ส่วนมาตรการป้องกันเหตุ ถ้าร้านทองที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ ตำรวจทุกสน. ก็จะจัดกำลังออกตรวจเป็นประจำ หรือเป็นช่วงๆ ไป เพราะกำลังตำรวจจะต้องดูแลทั้งเรื่องการจราจร งานสืบสวน และอื่นๆ

จากนั้น พล.ต.ต.ธีระพงษ์ ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีพร้อม พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.โชคชัย และชุดสืบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่ห้างดังกล่าวมีเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราช เอเชีย สาขาเจซี ที่อยู่บริเวณเดียวกันกับห้างมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรก ช่วงเช้าวันที่ 20 ต.ค. 2562คนร้ายบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 24 บาท ครั้งที่ 2 ช่วงเย็นวันที่ 17 ธ.ค.2562 คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชิงทองรูปพรรณ 40 เส้น น้ำหนักกว่า 120 บาท

พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบพยานไปแล้ว 9 ปาก ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุคนเดียว หรือมีผู้อื่นร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ ยังต้องตรวจสอบว่ามีผู้ต้องสงสัยไปดูลาดเลาก่อนก่อเหตุหรือไม่

ทั้งนี้ จากลักษณะผมยาวของคนร้ายที่ปรากฏ คนร้ายอาจจะเป็นชายหรือหญิงก็ได้ ต้องนำแผนประทุษกรรมย้อนหลังหลายปีมาตรวจสอบ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องสงสัยรวมแล้วหลายสิบราย ที่สำคัญต้องนำแผนประทุษกรรมในคดีโจรแต่งหญิงชิงทองที่ห้างบิ๊กซีพระราม 4 เมื่อปี 2562 มาตรวจสอบด้วย

พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบพยานแวดล้อมไปแล้วทั้งหมด 30 ปาก แต่ต้องพิจารณานำเข้าสำนวนอีกครั้ง เบื้องต้นมี 9 ปาก ทั้งนี้ ฝากแนะนำผู้ประกอบการร้านทองซึ่งอยู่ในห้างต่างๆ ว่ามีความเสี่ยงที่จะมีคนร้ายมาก่อเหตุชิงทองได้ง่าย จึงควรติดลูกกรงเหล็ก แม้จะทำประกันภัยไว้ก็ตาม

จากการตรวจสอบโดยมากจะพบว่าร้านทองที่ตั้งเองนอกห้าง มักจะติดลูกกรงป้องกันไว้ ขณะที่ร้านสาขาตามห้าง มักจะไม่ค่อยติด

ภาพบางส่วนจาก ทวิตเตอร์ @Nalinee_OPLE

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน