ตร.สอบปากคำ 3 ผู้ต้องหารุมโทรมด.ญ.เพิ่ม แต่ยังให้การปฏิเสธ เผย 2 ใน 3 พบสารเสพติดในร่างกาย ญาติเครียดไม่มีเงินยื่นประกันตัว เตรียมร้องยธ.ช่วยเหลือเงินประกันในวันพรุ่งนี้ ก่อนยื่นต่อศาลจังหวัดพังงาเพื่อขอให้ศาลพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว
กรณีน.ส.วัย15 ถูกกลุ่มชายรุมโทรม เหตุเกิดในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านเกาะแรด ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อเดือนพ.ค.ปี59 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนพ.ย.ปีเดียวกัน ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวยังเป็นเด็กหญิงวัยเพียง 14 ปีเศษเท่านั้น ขณะที่เหยื่อให้การว่ากลุ่มชายฉกรรจ์บังคับให้เสพยาก่อนลงมือ และยังมีเหยื่อสาวอีก 2 คนถูกข่มขืนด้วย ก่อนที่ตร.ขออนุมัติหมายจับชุดแรก 10 ราย ล่าสุดตร.ตามจับอีก 3 ผู้ต้องหาส่วน 5 ผู้ต้องหาล็อตแรก ส่งฝากขังศาลพังงา ก่อนให้ประกัน 2 คน ขณะที่อีก 3 คน ส่งตัวเข้าเรือนจำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว รวบเพิ่มอีก3 ร่วมโทรมดญ.ฝากขัง5คนแรก ศาลให้ประกัน2
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำ 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพังงา เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมในข้อกล่าวหาร่วมกันรุมโทรม พรากผู้เยาว์ ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย และบุกรุกเคหะสถาน พร้อมตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด โดยผลการตรวจพบว่า 2 ใน 3 มีปัสสาวะสีม่วง และยังให้การปฏิเสธจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวทั้ง 3 คน เข้าห้องขังที่ สภ.โคกกลอย และยังมีญาติๆ มานั่งให้กำลังใจพร้อมซื้อข้าวอาหารมาให้ทั้งวัน
โดยทั้ง 3 รายยังคงอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ระบุว่าทั้ง 3 คน เกิดอาการเครียดอย่างหนัก หลังถูกบุกจับตัวมาจากบ้านพัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คน ถูกดำเนินคดีไปแล้ว 1 คดี โดยเจ้าพนักงานสอบสวนจะนำตัวทั้ง 3 คนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพังงาในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ผู้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรโคกกลอยคิดสั้นหรือเป็นอันตราย โดยตรวจของที่ฝากเยี่ยมอย่างเข้มงวด เพราะมีผู้ถูกควบคุมตัวรายหนึ่ง ถูกระบุชัดว่าเป็นคนนำเด็กหญิงอายุ 14 ปี ไปให้เพื่อนกว่า 10 คนรุมข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ โดยมีพยานเห็นว่าผู้ต้องหาคนดังกล่าวจะเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเป็นประจำขณะอาศัยอยู่ที่บ้านเกาะแรด
ภรรยาผู้ต้องหาผู้ต้องหารายหนึ่ง เปิดเผยว่า สามีถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรโคกกลอย เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมนำตัวไปดำเนินคดีมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้นำหลักทรัพย์ 350,000 บาท ไปประกันตัวเพื่อขอให้ศาลจังหวัดพังงาปล่อยตัวชั่วคราว แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่บุกจับตัวซ้ำอีกครั้งหนึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา หากจะต้องหาหลักทรัพย์มาประกันตัวสามีอีกครั้ง ครอบครัวก็คงไม่สามารถหาหลักทรัพย์มาประกันตัวได้ เพราะทราบว่าก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดพังงา ตั้งวงเงินสำหรับประกันตัวชั่วคราวไว้สูงถึง 460,000 บาท จำเป็นต้องให้สามีถูกคุมขังในเรือนจำจังหวัดพังงา ไปจนกว่าจะมีคำพิพากษาตัดสินคดี
ด้าน พล.ต.ต.บุญทวี โตรักษา ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธการประกันตัว และปฏิเสธการปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากเป็นข้อกล่าวหาที่มีโทษรุนแรง พร้อมจะเร่งดำเนินการในชั้นพนักงานสอบสวน และจะออกหมายจับเพิ่มตามผู้เสียหายให้การ ก่อนส่งผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดไปฝากขังศาลจังหวัดพังงาในวันที่ 11 ก.ย. โดยผู้ถูกกล่าวหาสามารถประกันตัวในชั้นศาลโดยให้ศาลพิจารณาการประกันอีกครั้ง
นายสรรเพชร ทิพมนเทียน ทนายความอาสา กล่าวว่า วันที่ 11 ก.ย.นี้ จะนำญาติของผู้เสียหายทั้งหมดเข้าไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือด้านเงินทุนการประกันตัวแก่ผู้ต้องหา จากกองทุนสำนักงานคุ้มครองและเสรีภาพจากกระทรวงยุติธรรม จังหวัดพังงา ซึ่งศาลกำหนดหลักประกันการปล่อยตัวคนละ 460,000 บาท ทำให้ชาวบ้านไม่มีเงินประกันตัวเนื่องจากมีฐานะยากจน จากนั้นช่วงบ่ายจะดำเนินการร้องขอต่อศาลเพื่อขอยื่นประกันอีกครั้ง
