เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ก.ย ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น ได้เดินทางมาที่ สน. พร้อมเรียก พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน. ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.สอบสวนหัวหน้างาน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว (อ่านข่าวสุดสะเทือนใจ!! แม่ฆ่าลูกสาววัย15 ดับคาที่นอน-กอดศพร่ำไห้ใจจะขาด ตร.บุกตรวจ(คลิป))
โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งว่า มีลูกสาววัย 15 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยน.ส.ยลวดี สายเครือคำ อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้านผู้เป็นแม่ ยอมรับว่า ได้ลงมือผูกคอลูก ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) หลังจาก ลูกเสียชีวิต จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ พร้อมระบายความในใจว่า หลังจากสามี เสียชีวิต ไป 3 ปี ตัวเองก็ทำงานเป็นแม่บ้าน รายได้ไม่แน่นอน เวลาไปทำงานก็จะทิ้งลูกไว้ที่บ้าน
จากการตรวจสอบพบ ยาแวเลี่ยม ตกอยู่ภายในห้อง ที่โต๊ะและเตียง และมี 1 เม็ด ตกอยู่กับพื้น โดยผู้เป็นแม่ เคยมีประวัติ เข้ารับการรักษา ที่ รพ.ประสาท เพราะป่วยมีอาการทางจิต มีบัตรของทาง สถาบันประสาทวิทยา ออกให้ เมื่อปี 2557 สันนิษฐานว่ามีอาการป่วย ถ้าหายเป็นปกติแล้ว ก็เหมือนคนปกติทั่วไป แต่ถ้ามีอาการป่วยไม่รู้ตัว ก็จะต้องมีการพิสูจน์ทราบว่ารู้ตัวหรือไม่ ขณะก่อเหตุ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับเพทย์ เป็นผู้ลงความเห็น ว่าเป็นผู้ป่วยหรือไม่ และรู้สึกรับผิดชอบชั่วดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทางศาล เป็นผู้พิจารณา
โดยหลังจากก่อเหตุแล้ว ทาง น.ส.ยลวดี ได้พยายามจะฆ่าตัวตาย ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า ผู้ก่อเหตุกินยาแวเลี่ยม ไปจำนวนเท่าใด ต้องดูผลของแพทย์ คาดว่า เกิดจากสภาวะความเครียด แต่วิธีการไม่ควรจะใช้วิธีแบบนี้ เป็นความสูญเสีย เพราะทุกคนมีคุณค่า กฎหมายก็ถือเป็นความผิด ยกเว้นพบว่าจิตฟั่นเฟือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังนำจดหมายที่เขียนไว้ พร้อม ยา Diazepam จำนวนหนึ่ง ที่พบในที่เกิดเหตุ โดยจดหมายข้อความว่า “ขอความกรุณา ยลวดี เป็นอะไรไปขอความเมตตาโทรรถฉุกเฉิน 1669 พระนั่งเกล้า เบอร์ของลูกสาว บ้าน ราชวดีหญิง 02-5836731 ช่วยนำส่งเข้าที่ศูนย์ หาก ยลวดี มีอะไรเกิดขึ้นหรือตายไปแล้วให้โทรบอกแม่หรือพี่สาว 081-1810…. แม่บัวคลี สายเครือคำ เบอร์พี่สาว 0870358….. ลงชื่อ ยลวดี”
นอกจากนี้ยังพบบัตรนัดผู้ป่วยวันที่ 18 มกราคม 2561 ที่คลินิกจิตเวช 214 ที่สถาบันประสาทวิทยา สาเหตุที่นัดหมายคือ ติดตามอาการของนางยลวดี
ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 12 ก.ย. ร.ต.ท.อุกฤษฏ์ สุธีรพงศ์สิทธิ์ รองสว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุแม่ผูกคอลูกสาวเสียชีวิต ภายในหอพัก ย่านถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจัตร กทม. จึงรุดตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งตรงข้ามเรือนจำคลองเปรม บริเวณชั้น 3 ห้อง 308 พบ น.ส.ยลวดี สายเครือคำ อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้าน อยู่ ม.3 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นั่งร้องไห้ ข้างศพ ด.ญ.ชาธิญา วงศ์ทอง อายุ 15 ปี อยู่ ม.1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี บุตรสาว สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียง สวมเสื้อแขนสั้นสีชมพู กางเกงขายาวสีส้ม บริเวณคอมีรอยช้ำ และพบยาไดอะซีแพม (Diazepam) สีเหลือง ประมาณ 30 เม็ด อยู่ที่เตียง และที่ประตูห้องมีโซ่ยาวประมาณ 1 เมตร แขวนไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.ยลวดี ให้การว่า ตนมีอาชีพเป็นแม่บ้านรับจ้างทำความสะอาด และมีบุตรสาวคนแรก โดยลูกสาวมีอาการเป็นเด็กออทิสติกตั้งแต่กำเนิด เคยเข้าศึกษาโรงเรียนวัดมหาบุศย์ ชั้นประถมศึกษา แต่ก็ต้องลาออก เพราะมีอาการผิดปกติ ก่อนเข้ารักษาตัวที่สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต ย่านดินแดง ปี 2549 ก่อนหน้านี้ ตนกับสามีช่วยกันเลี้ยงดูลูก กระทั่งสามีได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ตนจึงต้องเป็นเสาหลักครอบครัว รับภาระมาโดยตลอด จึงมีความเครียดสะสม ต้องกินยานอนหลับ จำนวน 2 เม็ด ทุกวัน เพื่อให้นอนหลับจะได้ตื่นเช้าไปทำงานหาเงินจ่ายค่าห้องเช่า ค่ายา ค่ารักษาต่างๆ ขณะไปทำงานต้องใช้โซ่ล็อกห้องไว้ เพราะลูกสาวชอบเปิดประตูออกไปนอกห้อง
น.ส.ยลวดี กล่าวอีกว่า ตนรับภาระไม่ไหว พยายามจะฆ่าลูกสาวมานานแล้ว และหาวิธีที่ทรมานน้อยที่สุด กระทั่งตอนเช้า วันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ลาออกจากงานแล้วมานอนกับลูกสาวในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ก่อนใช้ผ้าในห้องรัดคอจนเสียชีวิต และนอนอยู่กับลูกสาวจนหลับไป จากนั้นเมื่อตื่นมา จึงไปซื้อเบียร์ 3 ขวดมากิน พร้อมยานอนหลับหลายเม็ด หวังฆ่าตัวตายตามลูกสาว แต่ก็อาเจียนออกมาจนหมด ก่อนหมดสติไป และตื่นมาตอนช่วงเวลา 02.30 น. จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ
ร.ต.ท.อุกฤษฏ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และแพทย์เข้ามาชันสูตรพลิกศพ จากการสอบสวน น.ส.ยลวดี เบื้องต้นรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าลูกสาวตนเอง แต่ยังมีอาการมึนเมาสุราและร้องไห้ ต้องให้สงบสติอารมณ์ก่อน จึงทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป
