เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. ฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกัน ปราบปรามการค้ามนุษย์ บช.น. (ผอ.ศพดส.น.) แถลงผลการจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก โดยจับกุมคดีค้ามนุษย์รอบเดือนรวมทั้งหมด 5 ราย ลักษณะเป็นแม่เล้า หรือผู้เป็นธุระจัดหาให้ พร้อมทั้งจัดระเบียบคนเร่ร่อน คนขอทาน คนไร้ที่พึ่งร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ส.ค. ส่งสถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด (บ้านภูมิเวท) 1 ราย ส่งเข้ารับการสงเคราะห์สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี 2 ราย ส่งบ้านมิตรไมตรี 73 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 41 ราย รวมทั้งหมด 117 ราย
พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมเพื่อป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ค้าประเวณีเด็ก และค้าแรงงานเด็ก ตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการหลอกคนไปลงเรือประมง โดยในรอบเดือนนี้มีการจับกุมทั้งหมด 5 ราย โดยสามารถจับกุมได้ตามหมายจับ 1 ราย ในพื้นที่บก.น.3 บก.น.7 บก.สปพ. กก.ดส. ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งหมด 43 ราย 25 หมายจับ ส่วนใหญ่เป็นคดีค้าประเวณี ขอทาน และใช้แรงงานผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปกครองเฝ้าติดตามพฤติกรรมลูกหลานหากมีการใช้ของแพงและใช้โซเชี่ยลมีเดีย อาจถูกล่อลวงให้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวได้
รองผบช.น. กล่าวอีกว่า เมื่อเทียบกับเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมีผลการจับกุมได้ทั้งหมด 65 ราย จนถึงขณะนี้ระยะเวลาเกือบ 10 เดือน ผลการปฏิบัติยังคงมีค่อนข้างน้อยกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดง พื้นที่บก.น.1 ที่ทางกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ได้จัดอันดับตามสถิติการจับกุมผับนาตารีอาบอบนวด ขณะนี้ผู้ต้องขังหนีออกไปนอกประเทศทางชายแดนประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเฝ้าระวังไม่ให้การกระทำผิดดังกล่าวเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในกรณีการนำคนไปขึ้นเรือประมงใช้แรงงานกลางทะเลผิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้เฝ้าระวังตามสถานีขนส่งต่างๆ ได้แก่ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งหมอชิต ไม่ให้มีการหลอกลวงคนไป ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการกระทำผิดลักษณะดังกล่าว หากมีผลการปฏิบัติน้อยหรือไม่กวดขันจับกุมจะพิจารณาคาดโทษให้นำเสนอให้ผบช.น.สั่งช่วยราชการ 30 วันต่อไป
