ตำรวจทางหลวง แถลง ศาลสั่งขัง 10 โจ๋นัดซิ่งบน มอเตอร์เวย์ หลังขนรถจักรยานยนต์ขึ้นกระบะเตรียมแข่ง อ้างสนามแข่งปิดเหตุโควิดระบาดหนัก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค.2563 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัส รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.วัฒนา แก้วดวงเทียน รองผบก.ทล. และ พ.ต.ท.วันชนะ ทิพย์อาสน์ สวญ.ส.ทล.1กก.8 บก.ทล. ร่วมแถลงผลดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่แข่งรถในทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 หลังคดีเป็นที่สิ้นสุด
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มวัยรุ่นนำรถกระบะและรถตู้ บรรทุกรถจักรยานยนต์ที่ตกแต่งเครื่องยนต์นำมาจอดบริเวณริมทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ฝั่งขาออก(กรุงเทพฯ-สนามบินสุวรรณภูมิ) ที่บริเวณ กม.7 ซึ่งห้ามหยุด จอด หรือกลับยานพาหนะใดๆ บนทางจราจร เพื่อเตรียมจะแข่งขัน
ตำรวจทางหลวง แถลง ศาลสั่งขัง 10 โจ๋นัดซิ่งบน มอเตอร์เวย์ หลังขนรถจักรยานยนต์ขึ้นกระบะเตรียมแข่ง
เบื้องต้นมีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 10 ราย พร้อมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์อีกกว่า 10 คัน โดยแจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนส่งเสริมให้มีการแข่งรถในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฝ่าฝืนประกาศหรือเครื่องหมายบนทางจราจร ฯ และฝ่าฝืนข้อกำหนดแห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลมีนบุรี
ต่อมาศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกผู้ต้องหาทั้งหมด คนละ 1 เดือน 15 วัน ปรับ 2,500 บาท และเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 1 เดือน 15 วัน ทั้งหมดถูกกักขังและพ้นโทษออกมาเรียบร้อยแล้ว
ภาพจากกล้องวงจรปิด
ด้าน นายสัมฤทธิ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุกลุ่มผู้จัดได้นัดหมายกันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า จะไปแข่งรถกันที่ถ.พระราม 9 ก่อนถึงทางลงมอเตอร์เวย์ ซึ่งตนทราบอยู่แล้วว่าไม่สามารถที่จะนำรถจักรยานยนต์เข้าไปขับบนมอเตอร์เวย์ได้ จึงนำรถจักรยานยนต์ที่แต่งซิ่งขนมาบนรถกระบะ โดยใช้ผ้าใบคลุมไว้
“ปรากฏว่า ถึงจุดเกิดเหตุกลุ่มนักแข่งทั้งหมดได้นำรถจักรยานยนต์ลงมาบนถนน ส่วนผมก็นำรถลงมาด้วย แต่ยังไม่ทันได้แข่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาจับจับกุม ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดนั้น ผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว จะมาเจอกันที่สนามแข่งรถเท่านั้น ซึ่งอยากจะขอโทษต่อสังคมด้วย ที่ทำลงไปก็มาจากความคึกคะนอง เพราะปกติผมไม่เคยแข่งรถบนถนนหลวง ส่วนมากจะไปแข่งที่สนาม เช่น ที่อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หรือคลอง 5 แต่เพราะสถานการณ์โควิดระบาด ทำให้สนามแข่งจำต้องปิดตัวลง ทำให้ต้องมาแข่งกันบนถนนหลวงแทน เพราะอัดอั้น” นายสัมฤทธิ์ กล่าว
รถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดไว้ได้
นายสัมฤทธิ์ กล่าวต่อว่า หลังถูกจับตนรู้สึกไม่ดี เมื่อพ่อแม่ทราบข่าวก็ไม่สบายใจที่ตนต้องมีคดีติดตัว และยังถูกคนอื่นสาปแช่ง ที่ออกมาครั้งนี้ ก็เพื่อเตือนสติต่อผู้ที่คิดจะประลองความเร็วว่า อย่ามาแข่งกันบนถนนหลวง เพราะศาลลงโทษจริง ต้องติดคุก หรืออาจประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตได้
