เมื่อวันที่ 14 ต.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประกาศให้วันที่ 14 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการว่า “รัฐบาลได้ประกาศให้วันดังกล่าวเป็นวันหยุดตามที่เป็นข่าว”
ผู้สื่อข่าวรายจากทำเนียบรัฐบาล ว่า บรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นไปด้วยความเงียบเหงาและเศร้าโศก โดยฝ่ายอาคารและสถานที่ได้จัดประดับตกแต่งรั้วทำเนียบด้วยผ้าสีขาวดำ และลดธงลดครึ่งเสา ขณะที่บรรดาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในทำเนียบรัฐบาล ยังเดินทางมาปฏิบัติงานตามปกติ ทุกคนพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดขาวดำ เพื่อถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ขณะที่ข้าราชการบางคน ซึ่งติดตามการถ่ายทอดพระราชวังและพระราชกรณียกิจและประกาศต่างๆ ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจประเทศไทย ก่อนที่จะเข้าปฏิบัติงานในช่วงเช้า ได้หันมาพูดคุยกันด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อยและมีน้ำตาคลอ
และเมื่อมีมติคณะรัฐมนตรีประกาศให้วันที่ 14 ต.ค. เป็นวันหยุดราชการ ข้าราชการส่วนใหญ่ยังขอปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องตามปกติ โดยระบุว่าเพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน แต่ข้าราชการบางส่วนได้เก็บของโดยระบุว่า จะไปเฝ้าน้อมเกล้าฯถวายความอาลัย ในระหว่างที่ขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่าน นอกจากนั้นคณะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ร่วมกันติดบอร์ดพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของสำนักงานป.ป.ช. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมกรรมการป.ป.ช. ได้แก่ นายปรีชา เลิศกมลมาศ นายณรงค์ รัฐอมฤต พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ ได้นำ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.และผู้บริหาระดับ รองเลขาธิการฯ ผู้อำนวยการสำนัก เจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่เข้าร่วมในการสัมมนาในครั้งนี้ ยืนถวายความอาลัยเป็นเวลานาน 9 นาที ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศในการสัมมนาทุกคนทั้งชายหญิงได้ร่วมกันแต่งกายในชุดสูทสีดำ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
