ทนายอานนท์ ย้ำข้อเรียกร้อง ขีดเส้นปล่อยตัว‘ไผ่ ดาวดิน’ก่อนเที่ยง 15 ต.ค. ลั่นหลังจากนี้จะไม่เจรจากับตำรวจอีก เหตุรับใช้เผด็จการ
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่ปักหลักล้อมทำเนียบรัฐบาล ยังคงเนืองแน่นตลอดถนนพิษณุโลก โดยเวลา 19.30 น. กลุ่มเสื้อแดงแรงงานปลดแอกจากภาคอีสานเดินทางมาร่วมสมทบที่แยกสวนมิสกวัน จากนั้นเคลื่อนขบวนมาปักหลักอยู่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเรียกเสียงตบมือต้อนรับจากกลุ่มผู้ชุมนุมสร้างความคึกคัก
จากนั้นเวลา 20.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขยายพื้นที่การชุมนม จากหน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาลและหน้ากระทรวงศึกษาธิการออกมาจนชิดสะพานมัฆวาน เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมเยอะมากขึ้น
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ถัดมาเวลา 20.45 น. เจ้าหน้าที่กั้นแนวอยู่กระทรวงศึกษาธิการ พยายามพูดผ่านเครื่องขยายเสียง โดยขอให้ฟังเจ้าหน้าที่ แต่แกนนำผู้ชุมนุมได้ปราศรัยว่า ไม่ฟัง อย่าไปสนใจ โดยผู้ชุมนุมต่างลุกขึ้นโห่ไล่พร้อมตะโกน “ประยุทธ์ ออกไป” เสียงดังกึกก้อง โดยแกนนำกล่าวว่า การชุมนุมถือเป็นสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย จากนั้นแกนนำสั่งผู้ชุมนุมให้นั่งลง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมในเวลา 22.00 น. และขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะที่ผู้ชุมนุมตะโกนโห่ไล่ และประกาศว่าจะไม่กลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำผู้ชุมนุมุประกาศจะปักหลักยาว 3 วัน หากใน 3 วันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะปักหลักชุมนุมยาวไปอีก
ต่อมาเวลา 21.10 น. เจ้าหน้าที่นำลวดหนามมาวางขวางถนนราชดำเนิน บริเวณข้างกองทัพภาคที่ 1 เส้นทางมุ่งหน้าไปยังลานพระราชวังดุสิต พร้อมตั้งรั้วเหล็กและวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยพื้นที่โดยรอบ
จากนั้นเวลา 21.15 น. นายอานนท์ นำภา แกนนำขึ้นปราศรัยว่า เนื่องจากพวกเราเดินทางมาชุมนุมจำนวนมาก เผด็จการไม่พอใจ ปรึกษาหารือกันจะให้ทหาร ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุมเราในคืนนี้ เหตุที่เขาต้องการเข้ามา เพราะเรามาอย่างสงบ ไม่เยอะขนาดนั้น เป็นข่าวกรองว่าแค่ 2 พันคน ขอฝากว่าหากมีการสลายการชุมนุมเมื่อไร ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม จะมีทรราชอย่างน้อย 4 คนจะไม่มีที่ยืนอยู่ในประเทศไทย เราอดทนมานานแล้ว
นายอานนท์ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องของเรา 3 ข้อคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไปทันที เพราะไม่มีปัญญาบริหารประเทศ ไม่มีความชอบธรรม ให้ไปขายรองเท้าก็ไม่มีคนซื้อ คนไทยจะอดตายทั้งประเทศแล้ว 2.เปิดสภาฯ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เอาประชาธิปไตยคืนมา นี่เป็นข้อเรียกร้องต่ำสุด โดยวันที่ 15 ต.ค.จะล่ารายชื่อเปิดสภาฯ วิสามัญเลย ถ้าไม่ยอมแก้รัฐธรรมนูญ ส.ว. 250 คนและพรรคพลังประชารัฐ จะไม่มีที่อยู่และที่ยืนในประเทศอีกต่อไป โดยสิ่งที่เราเรียกร้องไม่ต้องเสร็จภายในวันเดียว กินข้าวก็ต้องกินทีละคำ แต่ต้องเริ่มจากเอาประยุทธ์ออกไป
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า พรุ่งนี้ก่อนเที่ยงจะขีดเส้นตาย ต้องปล่อยตัวไผ่ ดาวดิน และหลังจากนี้จะไม่มีการเจรจากับตำรวจอีก เพราะท่านรับใช้เผด็จการ พวกเราจะสวมบทเป็นแพทย์ผ่าตัดไส้ติ่งออกจากประเทศ ส่วนส.ส.ต้องทำตัวเป็นผู้แทนของเราจริงๆ ไม่ใช่ทำตัวเป็นสุนัขรับใช้เผด็จการ โดยคืนนี้ขอให้ทุกคนอยู่กับเราไปนานๆ หากจำนวนเราลด เขาถือกระบองรออยู่ จะบุกเข้ามาแน่ และหากเข้ามาสลายการชุมนุมเมื่อไร ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม ต่อไปนี้จะไม่มีการอ่อนข้อ สมยอม ลดเพดานการต่อสู้ใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนจากนี้เรามีเวทีย่อยอีก 2-3 เวที อดใจอีกนิดเวทีใหญ่เสร็จแล้วอยู่ตรงทำเนียบฯ ด่าทุกวันจนกว่าจะออกไป เมื่อเครื่องเสียงเสร็จเราจะไปปราศรัยที่หน้าทำเนียบฯต่อ
จากนั้น 21.40 น. นายอานนท์ประกาศเคลื่อนย้ายมวลชนไปชุมนุมเวทีใหญ่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเวทีปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมมีทั้งหมด 4 เวที ประกอบด้วย 1.เวทีใหญ่หน้าทำเนียบรัฐบาล หรือบนสะพานชมัยมรุเชฐ 2.เวทีย่อยแยกสวนมิสกวัน 3.เวทีย่อยสะพานมัฆวานรังสรรค์ และ.4.เวทีย่อยแยกนางเลิ้ง
